Page 80 - บทคัดย่อเล่ม 1
P. 80

๗๖


               38. ข้อพิพำทหมำยเลขแดงที่ 64/2562

               ประเด็นข้อพิพำท : 1. ข้อเรียกร้องขำดอำยุควำมหรือไม่
                                2. สัญญำซื้อขำยเป็นโมฆะหรือไม่
                                3. คู่พิพำทฝ่ำยใดเป็นฝ่ำยผิดสัญญำ
                                4. ผู้คัดค้ำนทั้งสองจะต้องรับผิดต่อผู้เรียกร้องหรือไม่ เพียงใด


                              คู่พิพำทน ำสืบพยำนแล้วข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่ำ เมื่อวันที่ 6 มิถุนำยน 2556 ผู้คัดค้ำนที่ 1
               ซึ่งเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจ ำกัด โดยมีผู้คัดค้ำนที่ ๒ เป็นกรรมกำรผู้มีอ ำนำจกระท ำกำรแทน ได้ท ำสัญญำซื้อ
               เครื่องเลเซอร์ จำกผู้เรียกร้องรำคำ 2,000,000 บำท โดยมีผู้คัดค้ำนที่ 2 เป็นผู้ค้ ำประกัน ผู้เรียกร้องได้ส่งมอบสินค้ำ
               ให้แก่ผู้คัดค้ำนที่ 1 เรียบร้อยแล้ว มีก ำหนดช ำระค่ำสินค้ำภำยในวันที่ 6 สิงหำคม 2556 ผู้คัดค้ำนที่ 1 ยังไม่ได้ช ำระเงินค่ำ
               สินค้ำให้แก่ผู้เรียกร้อง

               ค ำวินิจฉัยชี้ขำด


                              อนุญำโตตุลำกำรพิจำรณำตำมทำงน ำสืบพยำนและพยำนเอกสำรหลักฐำนแล้ว
                              ประเด็นข้อพิพำทที่ 1 ข้อเรียกร้องขำดอำยุควำมหรือไม่ มีผู้คัดค้ำนที่ 2 น ำสืบว่ำ ตนและนำยธ. ซึ่งเป็น
               เจ้ำของบริษัทผู้เรียกร้องตกลงกันให้น ำเครื่องเลเซอร์พิพำทซึ่งเป็นเครื่องเก่ำมือสอง โดยตนน ำเครื่องนี้มำซ่อมแล้วน ำออก
               ขำยได้เงินก็น ำมำแบ่งปันกัน ตนได้น ำเครื่องดังกล่ำวซ่อมแซมแล้วให้ลูกค้ำทดลองใช้ แต่มีปัญหำ ลูกค้ำส่งกลับมำให้ตน
               ทุกวันนี้ยังอยู่ที่ส ำนักงำน และมีนำยก. ผู้รับมอบอ ำนำจของผู้เรียกร้องให้กำรว่ำ ผู้เรียกร้องและผู้คัดค้ำนที่ 1 ได้ท ำสัญญำ
               ซื้อขำยเครื่องเลเซอร์พิพำทในรำคำ 2,000,000 บำท รวมถึง  นำยธ.ได้ให้กำรว่ำ บริษัทผู้เรียกร้องประกอบธุรกิจจ ำหน่ำย
               เครื่องเลเซอร์ตัดเหล็กทั้งที่เป็นเครื่องใหม่และเครื่องมือสอง ข้อพิพำทคดีนี้ ผู้คัดค้ำนที่ 2 ในนำมผู้คัดค้ำนที่ 1 ได้ซื้อ

               เครื่องเลเซอร์มือสองพิพำทไปจำกผู้เรียกร้องในรำคำ 2,000,000 บำท เพื่อน ำไปใช้ในธุรกิจซ่อมแซมแล้วน ำออกขำย
               ของผู้คัดค้ำนที่ 1 นอกจำกนี้ ตำมค ำคัดค้ำนของผู้คัดค้ำนก็ยอมรับว่ำเป็นสัญญำซื้อขำยจริง และตำมสัญญำที่ลงนำมกันนั้น
               ก็ระบุว่ำเป็นสัญญำซื้อขำยสินค้ำ จึงย่อมรับฟังได้ว่ำผู้เรียกร้องและผู้คัดค้ำนที่ 1 ได้ท ำสัญญำซื้อขำยกันเมื่อวันที่ 6 มิถุนำยน
               2556 โดยผู้คัดค้ำนได้รับเครื่องเลเซอร์ดังกล่ำวไปเพื่อซ่อมแซมและน ำออกขำยอันเป็นกิจกำรปกติธุระของผู้คัดค้ำนที่ 1
               สิทธิเรียกร้องในข้อพิพำทดังกล่ำวเป็นสิทธิเรียกร้องที่มีอำยุควำม 5 ปี ตำมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ มำตรำ
               193/33 (5) เพรำะเป็นสัญญำซื้อขำยที่ผู้คัดค้ำนที่ 1 ซื้อเครื่องเลเซอร์จำกผู้เรียกร้องไปซ่อมแซมเพื่อขำย อันเป็นกำรที่
               ได้ท ำเพื่อกิจกำรของฝ่ำยลูกหนี้ตำมข้อยกเว้นที่ไม่อยู่ในอำยุควำม 2 ปีตำมมำตรำ 193/34 (1) เมื่อผู้เรียกร้องน ำคดีนี้
               มำเสนอต่อสถำบันอนุญำโตตุลำกำรตำมที่ผู้คัดค้ำนได้ยังไม่เกินก ำหนดเวลำ 5 ปี ตำมมำตรำ 193/33 (5) แห่งประมวล
               กฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ คดีจึงไม่ขำดอำยุควำม

                              ประเด็นข้อพิพำทที่ 2 มีว่ำ สัญญำซื้อขำยเป็นโมฆะหรือไม่ ผู้คัดค้ำนอ้ำงว่ำ สัญญำไม่สมบูรณ์เพรำะ
               ไม่มีกำรประทับตรำส ำคัญของบริษัทในสัญญำซื้อขำยจึงตกเป็นโมฆะ เห็นว่ำ สัญญำซื้อขำยเครื่องเลเซอร์ไม่มีกฎหมำย
               บังคับว่ำจะต้องท ำเป็นหนังสือ กำรท ำสัญญำด้วยวำจำก็มีผลสมบูรณ์ตำมกฎหมำย ตำมสัญญำที่ลงนำมนั้น เป็นเพียง
               หลักฐำนเพื่อใช้ยืนยันว่ำมีกำรท ำสัญญำซื้อขำยกันจริง ในช่องของฝ่ำยผู้ขำยและฝ่ำยผู้ซื้อ ซึ่งเป็นนิติบุคคลด้วยกันทั้งสอง
               ฝ่ำย ก็มิได้ประทับตรำส ำคัญของนิติบุคคลทั้งสองฝ่ำยแต่อย่ำงใด สัญญำซื้อขำยดังกล่ำวจึงสมบูรณ์ ไม่เป็นโมฆะ
                              ประเด็นข้อพิพำทที่ 3 คู่พิพำทฝ่ำยใดเป็นฝ่ำยผิดสัญญำ ปรำกฏในทำงน ำสืบของผู้เรียกร้องและ
               ผู้คัดค้ำนว่ำผู้คัดค้ำนได้รับเครื่องเลเซอร์มือสองพิพำทไปจำกผู้เรียกร้องแล้วเมื่อวันที่ 6 มิถุนำยน 2556
               เมื่อครบก ำหนดช ำระเงินวันที่ 6 สิงหำคม 2556 ซึ่งเป็นก ำหนดเวลำช ำระเงิน ผู้คัดค้ำนที่ 1 ยังไม่ได้ช ำระเงินตำมสัญญำ

               ซื้อขำยให้แก่ผู้เรียกร้อง ผู้คัดค้ำนที่ 1 จึงตกเป็นฝ่ำยผิดสัญญำ
                              ประเด็นข้อพิพำทที่ 4 ผู้คัดค้ำนทั้งสองจะต้องรับผิดต่อผู้เรียกร้องหรือไม่ เพียงใด เมื่อได้วินิจฉัย
               ในประเด็นข้อพิพำทที่ 3 ไปแล้วว่ำผู้คัดค้ำนที่ 1 เป็นฝ่ำยผิดสัญญำ ผู้คัดค้ำนที่ 1 จึงต้องรับผิดต่อผู้เรียกร้อง คือ ช ำระ
               รำคำสินค้ำจ ำนวน 2,000,000 บำท ให้แก่ผู้เรียกร้อง ส ำหรับเงินเบี้ยปรับในกรณีผิดนัดซึ่งก ำหนดไว้ตำมข้อ 3 ของ
               สัญญำว่ำ หำกผู้คัดค้ำนที่ 1 ผิดนัด ไม่ช ำระรำคำ จะต้องขอผ่อนผันต่อผู้เรียกร้องภำยใน 24 ชั่วโมง ระยะเวลำผ่อนผัน
               ต้องไม่เกิน 30 วัน โดยผู้คัดค้ำนที่ 1 จะต้องจ่ำยค่ำปรับผิดนัดให้แก่ผู้ขำยร้อยละ 5 ต่อเดือนของเงินที่ค้ำงช ำระ เห็นว่ำ
   75   76   77   78   79   80   81   82   83   84   85