Page 77 - บทคัดย่อเล่ม 1
P. 77
๗๓
36. ข้อพิพาทหมายเลขแดงที่ 88/2561
ประเด็นข้อพิพาท : ๑. ผู้เรียกร้องได้บอกเลิกสัญญำโดยชอบแล้วหรือไม่
๒. ผู้คัดค้ำนจะต้องคืนเงินและรับผิดในค่ำเสียหำย ดอกเบี้ยให้แก่ผู้เรียกร้อง เพียงใด
ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ตำมที่คู่ควำมน ำสืบรับกันและไม่โต้เถียงกันว่ำ เมื่อวันที่ ๑๐
เมษำยน ๒๕๕๖ ผู้เรียกร้องท ำสัญญำจะซื้อจะขำยห้องชุด โครงกำร ซ. ในรำคำ ๑,๕๙๐,๐๐๐ บำท จำกผู้คัดค้ำน
ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจพัฒนำโครงกำรอำคำรชุดดังกล่ำว โดยช ำระเงินตำมสัญญำให้แก่ผู้คัดค้ำนแล้วเป็นเงิน
รวมทั้งสิ้นจ ำนวน ๙๕๔,๐๐๐ บำท ตำมส ำเนำสัญญำจะซื้อจะขำย และค ำแปล กับรำยละเอียดกำรช ำระเงิน ผู้คัดค้ำน
เคยแจ้งให้ผู้เรียกร้องทรำบว่ำโครงกำรก่อสร้ำงจะแล้วเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ได้ภำยในกลำงปี ๒๕๕๘ แต่ต่อมำ
ไม่สำมำรถก่อสร้ำงโครงกำรอำคำรชุดดังกล่ำวให้แล้วเสร็จภำยในก ำหนดได้ และปัจจุบันได้หยุดกำรก่อสร้ำง
โครงกำรแล้ว
ค ำวินิจฉัยชี้ขำด
อนุญำโตตุลำกำรพิจำรณำกำรน ำสืบพยำนและพยำนเอกสำรหลักฐำนแล้ว
ประเด็นข้อพิพำทที่ 1 ผู้เรียกร้องได้บอกเลิกสัญญำโดยชอบแล้วหรือไม่ เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้
เบื้องต้นแล้วว่ำปัจจุบันผู้คัดค้ำนหยุดกำรก่อสร้ำงโครงกำรอำคำรชุดแล้ว และผู้คัดค้ำนก็มิได้น ำสืบข้อเท็จจริงในเรื่อง
นี้ให้เห็นเป็นอย่ำงอื่น จึงแสดงให้เห็นว่ำผู้คัดค้ำนไม่อำจปฏิบัติตำมข้อตกลงในสัญญำที่มีหน้ำที่ต้องโอนกรรมสิทธิ์
ห้องชุดอันเป็นกำรผิดสัญญำ ส่วนข้ออ้ำงของผู้คัดค้ำนที่ว่ำก ำหนดแล้วเสร็จของโครงกำรในช่วงกลำงปี ๒๕๕๘ จะเป็น
เพียงกำรประมำณกำรหรือไม่ ก็ไม่ท ำให้ผู้คัดค้ำนสำมำรถปฏิบัติหน้ำที่ตำมข้อตกลงในสัญญำจะซื้อจะขำยได้
ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่ำผู้คัดค้ำนเป็นฝ่ำยผิดสัญญำ ข้อเท็จจริงปรำกฏต่อไปว่ำผู้เรียกร้องได้มีหนังสือบอกเลิกสัญญำ
ไปยังผู้คัดค้ำน ในวันที่ ๓๑ ตุลำคม ๒๕๕๗ และขอให้ผู้เรียกร้องคืนเงินที่ได้รับไว้ทั้งหมดคืน ซึ่งผู้คัดค้ำนน ำสืบรับ
ข้อเท็จจริงว่ำ กำรก่อสร้ำงมีควำมล่ำช้ำ และได้เจรจำเสนอคืนเงินโดยก ำหนดเงื่อนไขให้ผู้เรียกร้องกรอกแบบฟอร์ม
ที่ก ำหนดและส่งคืนให้แก่ผู้คัดค้ำนแต่ผู้เรียกร้องไม่ได้ด ำเนินกำรตำมเงื่อนไข เห็นว่ำ เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่ำ
ผู้คัดค้ำนเป็นฝ่ำยผิดสัญญำจะซื้อจะขำย ผู้เรียกร้องจึงมีสิทธิบอกเลิกสัญญำจะซื้อจะขำยได้ ตำมข้อ ๑๔ ของสัญญำ
จะซื้อจะขำย ผู้เรียกร้องจึงมีสิทธิบอกเลิกสัญญำได้โดยชอบด้วยกฎหมำย
ประเด็นข้อพิพำทที่ 2 ผู้คัดค้ำนจะต้องคืนเงินและรับผิดในค่ำเสียหำย ดอกเบี้ยให้แก่ผู้เรียกร้อง
เพียงใด เห็นว่ำ เมื่อสัญญำเลิกกันแล้ว คู่สัญญำทุกฝ่ำยจึงต้องกลับคืนสู่ฐำนะเดิม ตำมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
พำณิชย์ มำตรำ ๓๙๑ ผู้คัดค้ำนจึงต้องคืนเงินจ ำนวน ๙๕๔,๐๐๐บำท ที่ได้รับไว้จำกผู้เรียกร้อง ส ำหรับดอกเบี้ยตำมที่
ผู้เรียกร้องมีค ำขอบังคับเห็นว่ำยังไม่เริ่มนับจนกว่ำจะถึงวันยื่นค ำเสนอชี้ขำดเนื่องจำกวันยื่นค ำเสนอชี้ขำดเป็นวันที่อำจ
ก ำหนดพฤติกำรณ์ผิดนัดในหนี้เงินได้แน่นอน และที่ผู้เรียกร้องขอให้ผู้คัดค้ำนรับผิดชดใช้ค่ำเสียหำยสืบเนื่องจำกกำร
ผิดสัญญำอีก นั้น เห็นว่ำแม้ว่ำกำรเลิกสัญญำจะไม่กระทบสิทธิของผู้เรียกร้องที่จะเรียกเอำค่ำเสียหำยจำกผู้คัดค้ำน
แต่จะต้องเป็นควำมเสียหำยที่ตำมปกติย่อมเกิดขึ้นจำกกำรที่ฝ่ำยผู้คัดค้ำนไม่ปฏิบัติตำมหน้ำที่ของตน และผู้เรียกร้อง
มีหน้ำที่ต้องน ำสืบให้เห็นถึงควำมเสียหำยดังกล่ำว แต่ผู้เรียกร้องปรำศจำกพยำนหลักฐำนมำน ำสืบสนับสนุนให้เห็นถึง
ควำมเสียหำยแท้จริงที่เกิดขึ้น จึงไม่ก ำหนดให้ ส่วนที่ขอให้อนุญำโตตุลำกำรก ำหนดค่ำเสียหำยเชิงลงโทษ โดยอ้ำงเหตุ
ตำมที่บัญญัติไว้ในพระรำชบัญญัติวิธีพิจำรณำคดีผู้บริโภค พ.ศ.๒๕๕๑ มำตรำ ๔๒ เห็นว่ำ ข้อเท็จจริงในคดีไม่ใช่
เหตุผลเพียงพอที่จะถือว่ำเป็นกำรกระท ำโดยเจตนำเอำเปรียบผู้คัดค้ำนโดยไม่เป็นธรรม หรือจงใจให้
ผู้คัดค้ำนได้รับควำมเสียหำย หรือฝ่ำฝืนต่อควำมรับผิดชอบในฐำนะผู้ประกอบธุรกิจอันเป็นที่ไว้วำงใจตำมที่ผู้เรียกร้อง
กล่ำวอ้ำง โดยเฉพำะเมื่อพิจำรณำประกอบข้อเท็จจริงตำมพยำนหลักฐำนของผู้เรียกร้องว่ำ ผู้คัดค้ำนยอมรับว่ำกำร
ก่อสร้ำงล่ำช้ำและเสนอที่จะชดใช้เงินคืนให้มำโดยตลอด เพียงแต่ขอให้ด ำเนินกำรตำมขั้นตอนที่ก ำหนด เห็นว่ำ
กำรก ำหนดเงื่อนไขเช่นนี้หำใช่พฤติกำรณ์ที่แสดงให้เห็นถึงควำมไม่สุจริตหรือไม่เป็นธรรมในกำรประกอบธุรกิจของ
ผู้คัดค้ำนแต่อย่ำงใด เพรำะเป็นธรรมดำของกำรประกอบธุรกิจกำรค้ำที่ผู้ประกอบกำรจะต้องหำทำงเยียวยำควำม
เสียหำยให้แก่ผู้บริโภค แต่ขณะเดียวกันก็ต้องหำวิธีกำรที่จะให้กำรช ำระหนี้คืนมีหลักฐำนถูกต้องชัดเจนด้วยเช่นกัน
จึงไม่มีเหตุตำมที่ผู้เรียกร้องกล่ำวอ้ำงเพื่อก ำหนดค่ำเสียหำยเชิงลงโทษตำมกฎหมำยดังกล่ำว ที่ส ำคัญอ ำนำจ