Page 72 - บทคัดย่อเล่ม 1
P. 72
๖๘
33. ข้อพิพำทหมำยเลขแดงที่ 59/2561
ประเด็นข้อพิพำท : ๑.ผู้คัดค้ำนผิดสัญญำหรือไม่
๒.ผู้คัดค้ำนจะต้องรับผิดคืนเงินพร้อมดอกเบี้ยและค่ำเสียหำยให้แก่ผู้เรียกร้องหรือไม่
เพียงใด
คู่พิพำทน ำสืบพยำนแล้วข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่ำ เมื่อวันที่ ๒๓ มกรำคม ๒๕๕๖ ผู้เรียกร้อง
ท ำสัญญำจะซื้อจะขำยห้องชุด ขนำดห้องละ ๓๐ ตำรำงเมตร ในรำคำรวม ๑,๔๖๐,๐๐๐ บำท จำกผู้คัดค้ำนซึ่งเป็น
ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนำโครงกำรอำคำรชุดดังกล่ำวและเป็นผู้จะขำย โดยผู้เรียกร้องได้ช ำระเงินตำมสัญญำให้แก่
ผู้คัดค้ำนแล้วเป็นเงิน ๙๓๖,๕๖๒ บำท ต่อมำวันที่ ๑๓ กุมภำพันธ์ ๒๕๕๖ ผู้เรียกร้องท ำสัญญำจะซื้อจะขำยห้องชุด
ขนำด ๓๖ ตำรำงเมตร ในโครงกำรเดียวกันจำกผู้คัดค้ำน ในรำคำ ๑,๑๕๐,๐๐๐ บำท โดยช ำระเงินตำมสัญญำแล้ว
เป็นเงิน ๗๐๒,๓๔๓ บำท รวมเป็นเงินที่ช ำระไปแล้วทั้งสิ้นจ ำนวน ๑,๖๓๘,๙๐๕ บำท ตำมส ำเนำสัญญำจะซื้อจะขำย
๒ ฉบับ ผู้คัดค้ำนเคยแจ้งให้ผู้เรียกร้องทรำบว่ำโครงกำรก่อสร้ำงจะแล้วเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ได้ภำยในกลำงปี
๒๕๕๘ แต่ต่อมำไม่สำมำรถก่อสร้ำงโครงกำรอำคำรชุดดังกล่ำวให้แล้วเสร็จภำยในก ำหนดได้ และปัจจุบันได้หยุดกำร
ก่อสร้ำงโครงกำรแล้ว
ค ำวินิจฉัยชี้ขำด
ประเด็นแรก ปัจจุบันผู้คัดค้ำนหยุดกำรก่อสร้ำงโครงกำรอำคำรชุดแล้ว และผู้คัดค้ำนก็มิได้น ำสืบ
ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ให้เห็นเป็นอย่ำงอื่น จึงแสดงให้เห็นว่ำผู้คัดค้ำนไม่อำจปฏิบัติตำมข้อตกลงในสัญญำที่มีหน้ำที่ต้อง
โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดอันเป็นกำรผิดสัญญำ ข้ออ้ำงของผู้คัดค้ำนที่ว่ำก ำหนดแล้วเสร็จของโครงกำรในช่วงกลำง
ปี ๒๕๕๘ จะเป็นเพียงกำรประมำณกำรหรือไม่ ก็ไม่ท ำให้ผู้คัดค้ำนสำมำรถปฏิบัติหน้ำที่ตำมข้อตกลงในสัญญำจะซื้อ
จะขำยได้ ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่ำผู้คัดค้ำนเป็นฝ่ำยผิดสัญญำ
ประเด็นต่อไป ได้ควำมว่ำ ผู้เรียกร้องทวงถำมให้ผู้คัดค้ำนปฏิบัติตำมข้อตกลงหลำยครั้งและ
ผู้คัดค้ำนได้แจ้งให้ทรำบว่ำกำรก่อสร้ำงล่ำช้ำและยินดีคืนเงินให้ตำมเงื่อนไขที่ก ำหนด ต่อมำผู้เรียกร้องให้พยำนมี
หนังสือบอกเลิกสัญญำและขอให้ช ำระเงินคืน เมื่อวันที่ ๖ มิถุนำยน ๒๕๖๐ ซึ่งผู้คัดค้ำนน ำสืบรับข้อเท็จจริงว่ำกำร
ก่อสร้ำงมีควำมล่ำช้ำและได้เจรจำเสนอคืนเงินโดยก ำหนดเงื่อนไขให้ผู้เรียกร้องกรอกแบบฟอร์มที่ก ำหนดและส่งคืน
ให้แก่ผู้คัดค้ำน เห็นว่ำ เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่ำผู้คัดค้ำนเป็นฝ่ำยผิดสัญญำจะซื้อจะขำย ผู้เรียกร้องจึงมีสิทธิบอกเลิก
สัญญำจะซื้อจะขำยได้ตำมสัญญำ ผู้เรียกร้องจึงมีสิทธิบอกเลิกสัญญำได้โดยชอบด้วยกฎหมำย และเมื่อสัญญำเลิกกัน
แล้ว คู่สัญญำทุกฝ่ำยจึงต้องกลับคืนสู่ฐำนะเดิม ตำมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ มำตรำ ๓๙๑ ผู้คัดค้ำนจึงต้อง
คืนเงิน ๑,๖๓๘,๙๐๕ บำท ที่ได้รับไว้จำกผู้เรียกร้อง พร้อมดอกเบี้ยตำมที่ผู้เรียกร้องมีค ำขอบังคับ แต่ที่ผู้เรียกร้องขอให้
ผู้คัดค้ำนรับผิดชดใช้ค่ำเสียหำยสืบเนื่องจำกกำรผิดสัญญำอีกจ ำนวน ๑,๖๓๘,๙๐๕ บำท นั้น แม้ว่ำกำรเลิกสัญญำจะไม่
กระทบสิทธิของผู้เรียกร้องที่จะเรียกเอำค่ำเสียหำยจำกผู้คัดค้ำนแต่จะต้องเป็นควำมเสียหำยที่ตำมปกติย่อมเกิดขึ้น
จำกกำรที่ฝ่ำยผู้คัดค้ำนไม่ปฏิบัติตำมหน้ำที่ของตน และผู้เรียกร้องมีหน้ำที่ต้องน ำสืบให้เห็นถึงควำมเสียหำยดังกล่ำว
แต่ผู้เรียกร้องกล่ำวอ้ำงถึงจ ำนวนเงินค่ำเสียหำยอย่ำงเลื่อนลอยโดยปรำศจำกพยำนหลักฐำนมำน ำสืบสนับสนุนให้เห็น
ถึงควำมเสียหำยแท้จริงที่เกิดขึ้น จึงไม่ก ำหนดให้ ส่วนที่ขอให้อนุญำโตตุลำกำรก ำหนดค่ำเสียหำยเชิงลงโทษ โดยอ้ำง
เหตุตำมถ้อยค ำที่บัญญัติไว้ในพระรำชบัญญัติวิธีพิจำรณำคดีผู้บริโภค พ.ศ.๒๕๕๑ มำตรำ ๔๒ พยำนฝ่ำยผู้เรียกร้อง
อ้ำงว่ำ ผู้คัดค้ำนไม่ระบุก ำหนดเวลำแล้วเสร็จของโครงกำรในสัญญำตำมเงื่อนไขในประกำศคณะกรรมกำรว่ำด้วย
สัญญำ เรื่องให้ธุรกิจขำยห้องชุดเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญำ พ.ศ.๒๕๔๓ เห็นว่ำ ไม่ใช่เหตุผลเพียงพอที่จะถือว่ำเป็นกำร
กระท ำโดยเจตนำเอำเปรียบผู้คัดค้ำนโดยไม่เป็นธรรม หรือจงใจให้ผู้คัดค้ำนได้รับควำมเสียหำย หรือฝ่ำฝืนต่อควำม
รับผิดชอบในฐำนะผู้ประกอบธุรกิจอันเป็นที่ไว้วำงใจตำมที่ผู้เรียกร้องกล่ำวอ้ำง โดยเฉพำะเมื่อพิจำรณำประกอบ
ข้อเท็จจริงตำมพยำนหลักฐำนของผู้เรียกร้องว่ำ ผู้คัดค้ำนยอมรับว่ำกำรก่อสร้ำงล่ำช้ำและเสนอที่จะชดใช้เงินคืนให้มำ
โดยตลอด เพียงแต่ขอให้ด ำเนินกำรตำมขั้นตอนที่ก ำหนด ส่วนที่ผู้เรียกร้องน ำสืบว่ำ ผู้คัดค้ำนก ำหนดวิธีกำรคืนเงินโดย
จะต้องท ำข้อตกลงเกี่ยวกับกำรเก็บรักษำควำมลับและต้องชดใช้ค่ำปรับหำกมีกำรฝ่ำฝืนข้อตกลงดังกล่ำว เห็นว่ำ
กำรก ำหนดเงื่อนไขเช่นนี้เป็นภำระเกินสมควรแก่ผู้เรียกร้องในฐำนะผู้บริโภคที่มีสิทธิได้รับเงินคืนโดยชอบธรรม แต่ก็