Page 75 - บทคัดย่อเล่ม 1
P. 75
๗๑
35. ข้อพิพำทหมำยเลขแดงที่ 85/2561
ผู้คัดค้ำนทรำบนัดโดยชอบด้วยกฎหมำยแล้ว แต่ไม่มำและไม่แจ้งเหตุขัดข้อง อนุญำโตตุลำกำร
จึงด ำเนินกระบวนพิจำรณำสืบพยำนผู้เรียกร้องไปฝ่ำยเดียว
อนุญำโตตุลำกำรได้ตรวจพิเครำะห์พยำนหลักฐำนของผู้เรียกร้องที่น ำสืบมำโดยมี อ. ผู้เรียกร้อง
ซึ่งเป็นพยำนบุคคลที่ได้ยื่นค ำให้กำรเป็นหนังสือไว้แล้ว ให้กำรยืนยันต่อหน้ำอนุญำโตตุลำกำรว่ำเป็นควำมจริง
ตำมที่ให้กำรเป็นหนังสือไว้พร้อมทั้งได้ส่งเอกสำรต่ำง ๆ ประกอบจนเป็นที่เห็นได้ว่ำ ผู้คัดค้ำนที่ 1 เป็นนิติบุคคล
ประเภทบริษัทจ ำกัด โดยมี ฐ. ที่ 2 ช.ที่ 3 และร. ที่ 4 เป็นกรรมกำรผู้มีอ ำนำจกระท ำกำรแทนได้ คือกรรมกำรหนึ่งคน
ลงลำยมือชื่อและประทับตรำส ำคัญแล้วผูกพันบริษัทได้ ผู้คัดค้ำนที่ 1 ประกอบธุรกิจค้ำอสังหำริมทรัพย์
ซึ่งผู้เรียกร้องได้ตกลงจองห้องชุดและท ำสัญญำจะซื้อจะขำยห้องชุดในอำคำรโครงกำร ก. ของบริษัทผู้คัดค้ำนทั้งสี่
เมื่อวันที่ 18 สิงหำคม 2551 ผู้เรียกร้องได้จองห้องชุดของผู้คัดค้ำนที่ 1 ดังกล่ำว ในรำคำ 6,982,000 บำท โดย
แบ่งช ำระเงินเป็น 48 งวด เฉพำะงวดที่ 1 ถึงงวดที่ 47 ช ำระเงินงวดละ 20,000 บำท งวดที่ 48 ช ำระ 406,400 บำท
ส่วนที่เหลือทั้งหมดอีก 5,585,600 บำท จะช ำระให้ผู้คัดค้ำนที่ 1 ในวันจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ภำยในเดือน
ตุลำคม 2555 หรือเมื่อสิ่งปลูกสร้ำงแล้วเสร็จ รวมเป็นเงินที่ผู้เรียกร้องได้ช ำระให้ผู้คัดค้ำนที่ 1 รับไปตั้งแต่วันจอง
10,000 บำท วันท ำสัญญำจะซื้อจะขำยอีก 40,000 บำท และหลังจำกท ำสัญญำแล้วได้ช ำระค่ำงวดอีกงวดละ 20,000
บำท ตั้งแต่งวดที่ 1 ถึงงวดที่ 31 รวมเป็นเงิน 620,000 บำท ตำมใบเสร็จรับเงิน 18 ฉบับ รวมเป็นเงินที่ผู้เรียกร้อง
ได้ช ำระให้ผู้คัดค้ำนที่ 1 รับไปทั้งสิ้น 670,000 บำท จึงได้ทรำบว่ำผู้คัดค้ำนที่ 1 ได้หยุดท ำกำรก่อสร้ำงแล้วไม่ได้ท ำ
กำรก่อสร้ำงตำมสัญญำอีกต่อไป
ต่อมำผู้เรียกร้องจึงได้ตรวจค้นทำงสื่อออนไลน์ ก็ได้ทรำบว่ำ ผู้คัดค้ำนที่ 1 มีปัญหำไม่สำมำรถ
ส่งมอบอำคำรชุดให้ผู้จองซื้ออีกหลำยรำย จนถึงวันที่ 4 พฤษภำคม 2559 ผู้เรียกร้องจึงได้โทรศัพท์บอกเลิกสัญญำ
ไปยัง ฉ. พนักงำนขำยของผู้คัดค้ำนที่ 1 ขอให้ผู้คัดค้ำนที่ 1 คืนเงินที่ผู้เรียกร้องได้จ่ำยให้ผู้คัดค้ำนที่ 1 ไป รวมทั้งหมด
670,000 บำท ซึ่ง ฉ. ได้บันทึกข้อควำมไว้แล้วส่งไปยังส ำนักงำนของผู้คัดค้ำนที่ 1 ที่กรุงเทพฯ และส่งส ำเนำ
ให้ผู้เรียกร้องไว้กับแจ้งให้ผู้เรียกร้องน ำต้นฉบับใบจองกับสัญญำจะซื้อจะขำย ไปติดต่อที่ส ำนักงำนของผู้คัดค้ำนที่ 1
ที่กรุงเทพฯ เพื่อท ำเรื่องคืนเงิน ผู้เรียกร้องจึงได้ไปติดต่อที่ส ำนักงำนของผู้คัดค้ำนที่ 1 ที่กรุงเทพฯ พร้อมทั้ง
น ำต้นฉบับใบจองและสัญญำจะซื้อจะขำยไปมอบให้ผู้คัดค้ำนที่ 1 แล้วรอรับคืนเงิน แต่ผู้คัดค้ำนที่ 1 ไม่ยอมคืนเงินให้
รวมทั้งไม่คืนใบจองกับสัญญำ ผู้เรียกร้องได้ติดตำมทวงถำมผู้คัดค้ำนทั้งสี่กลับเพิกเฉยและไม่คืนเงินให้ ผู้เรียกร้อง
จึงได้ไปแจ้งควำมลงบันทึกประจ ำวันไว้
ค ำวินิจฉัยชี้ขำด
เมื่อได้ควำมชัดว่ำผู้คัดค้ำนทั้งสี่ไม่ท ำกำรก่อสร้ำงอำคำรชุดที่ได้ท ำสัญญำไว้กับผู้เรียกร้อง
ผู้คัดค้ำนทั้งสี่จึงตกเป็นฝ่ำยผิดสัญญำต้องคืนเงินที่รับไปจำกผู้เรียกร้องพร้อมทั้งค่ำเสียหำยอันเป็นหนี้เงินรวมทั้งหมด
670,000 บำท โดยคิดเป็นดอกเบี้ยในอัตรำร้อยละ 7.5 ต่อปีของยอดเงินดังกล่ำวตำมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
พำณิชย์มำตรำ 224 ซึ่งผู้เรียกร้องได้บอกเลิกสัญญำแล้ว นับตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนำยน 2554 ถึงวันที่ยื่นค ำเสนอ
ข้อพิพำท เป็นเวลำ 5 ปี 5 เดือน คิดเป็นเงินค่ำดอกเบี้ย 272,187 บำท รวมเป็นยอดเงินที่ผู้คัดค้ำนทั้งสี่ต้องร่วมกันช ำระ
ให้ผู้เรียกร้อง 942,187 บำท และต้องช ำระค่ำเสียหำยเป็นเงินดอกเบี้ยอีกร้อยละ 7.5 ต่อปี ของยอดเงิน 670,000 บำท
นับถัดจำกวันยื่นค ำเสนอข้อพิพำทเป็นต้นไปจนกว่ำจะช ำระเงินให้ผู้เรียกร้องเสร็จ
ส่วนค่ำเสียหำยที่ผู้เรียกร้องน ำสืบมำว่ำเป็นค่ำขำดประโยชน์เมื่อห้องชุดสร้ำงเสร็จ
หำกน ำไปให้ผู้เช่ำจะได้ค่ำเช่ำเดือนละ 20,000 บำทนั้น อนุญำโตตุลำกำรได้ตรวจดูตำมสัญญำที่ผู้เรียกร้องได้ท ำไว้
กับผู้คัดค้ำนที่ 1 ได้ระบุไว้ชัดว่ำจะใช้ห้องชุดเป็นที่พักอำศัยมิใช่จะให้ผู้อื่นเช่ำ จึงขัดต่อเจตนำและควำมประสงค์
ของผู้เรียกร้องเอง นอกจำกนี้ผู้เรียกร้องเพียงแต่ยกกำรขำดประโยชน์ขึ้นมำลอย ๆ เพรำะมิได้น ำสืบให้เห็นชัดว่ำ
มีผู้ใดที่จะมำเช่ำ ทั้ง ๆ ที่น ำสืบว่ำห้องชุดของอำคำรไม่มีกำรก่อสร้ำงให้แล้วเสร็จ ดังนั้นกำรขอคิดค่ำขำดประโยชน์
ในกำรที่จะน ำห้องชุดไปให้ผู้อื่นเช่ำ จึงเป็นกำรคำดเดำเอำเองที่เป็นไปไม่ได้