Page 48 - คู่มือปฏิบัติงานศาลอาญาคดีทุตจริตฯ
P. 48
คู่มือการปฏิบัติงานศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
| 37
โดยให้ผู้พิพากษาเจ้าของส านวนหรือเจ้าพนักงานคดีแล้วแต่กรณีเป็นผู้ลงนามในหนังสือเรียก
เอกสาร เว้นแต่หนังสือเรียกมีไปถึงหน่วยงานหรือบุคคลผู้ด ารงต าแหน่งส าคัญ หรือเป็นเอกสาร
ส าคัญ ให้ผู้พิพากษาเจ้าของส านวนเป็นผู้ลงนามตาม ภาคผนวก 11
เมื่อเจ้าพนักงานคดีด าเนินการตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จสิ้นแล้ว
ให้จัดท าสรุปรายงานตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนวันนัดไต่สวนมูลฟ้องไม่น้อยกว่า
15 วัน ตามแบบรายงานฯ ภาคผนวก 12
ข้อสังเกต
หากเจ้าพนักงานคดีเห็นว่าพยานหลักฐานซึ่งโจทก์ประสงค์จะน าเข้าไต่สวนมูลฟ้อง
มีลักษณะฟุ่มเฟือย ซ้ าซ้อนหรือไม่มีความจ าเป็น อาจแจ้งให้โจทก์ทราบและเลือกพยานน าเข้า
ไต่สวนมูลฟ้องเท่าที่จ าเป็นได้ หากโจทก์ยินยอม ให้ท ารายงานระบุว่าเป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์
จะสืบพยานหลักฐานเพียงเท่านั้น หากโจทก์ไม่ยินยอมปรับเปลี่ยนหรือปรับเปลี่ยนบางส่วน
ถ้าเจ้าพนักงานคดียังเห็นว่าพยานหลักฐานของโจทก์มีลักษณะฟุ่มเฟือย ซ้ าซ้อนหรือไม่มี
ความจ าเป็นก็ให้เจ้าพนักงานคดีเสนอความเห็นให้ศาลพิจารณาต่อไป
2.2 การไต่สวนมูลฟ้อง
การไต่สวนมูลฟ้องให้ด าเนินการตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๑๖๕ (พ.ร.บ. วิ. ทุจริตฯ
มาตรา ๑๗ วรรคหนึ่ง)
2.๒.๑ การมาศาลของคู่ความ
(1) โจทก์ไม่มาศาล
ในวันนัดไต่สวนมูลฟ้องหากโจทก์ไม่มาศาลโดยไม่มีเหตุอันสมควร ถ้าศาลเห็นว่า
มีเหตุจ าเป็นต้องไต่สวนพยาน ศาลอาจไต่สวนพยานต่อไป กรณีเช่นนี้มิให้น าบทบัญญัติ
มาตรา ๑๖๖ แห่ง ป.วิ.อ. มาใช้บังคับ (ข้อบังคับของประธานศาลฎีกาฯ ข้อ ๑๓) แต่หากเห็นว่า
ไม่มีเหตุจ าเป็นต้องไต่สวนพยาน ให้ศาลยกฟ้องตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๑๖๖
การที่ศาลจะมีค าสั่งให้ไต่สวนพยานหลักฐานต่อไปหรือไม่ ให้ค านึงถึงฟ้องโจทก์
ว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะและความเสียหายที่มีผลกระทบต่อรัฐ และ
พยานหลักฐานทั้งหมดที่มีอยู่ในส านวนเพียงพอแก่การวินิจฉัยคดีหรือไม่ มีพยานหลักฐานอื่นที่