Page 179 - นิตยสารดุลพาห เล่มที่ ๒-๒๕๖๑-กฎหมาย
P. 179
ดุลพาห
ของความผิดหรือข้อเท็จจริงที่ทำาให้ผู้กระทำาต้องรับโทษหนักขึ้น แต่ก็ยังคงเป็นข้อเท็จจริงที่มี
ผลในทางพิจารณาความอันส่งผลประการสำาคัญในแง่ความผิดอันยอมความได้และความผิด
อันยอมความไม่ได้ ยกตัวอย่างตามอุทาหรณ์ข้างต้นที่แม้นางสาวผักบุ้งซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ใน
เหตุการณ์ได้เห็นนายสมศักดิ์กอดปลำ้านางสาวกีวี่ แต่เนื่องจากนายสมศักดิ์ไม่ได้กระทำาโดยมี
เจตนาให้นางสาวผักบุ้งเห็น แต่เป็นเรื่องที่นางสาวผักบุ้งเห็นได้โดยบังเอิญ จึงควรคุ้มครอง
นายสมศักดิ์ที่เป็นผู้กระทำาความผิดเป็นสำาคัญ เนื่องจากนายสมศักดิ์ไม่ได้มีเจตนาประสงค์ต่อผล
หรือเล็งเห็นผลให้นางสาวผักบุ้งเห็น เพราะนายสมศักดิ์ได้สังเกตการณ์มานานและทราบว่า
นางสาวกีวี่พักอาศัยอยู่ห้องพักคนเดียวมาโดยตลอด อีกทั้งเมื่อนางสาวผักบุ้งซึ่งเป็นบุคคลที่
สามได้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว นายสมศักดิ์ก็ได้รีบวิ่งหนีออกจากห้องทันที อันเป็นพฤติการณ์
ของนายสมศักดิ์ที่ชัดเจนว่านายสมศักดิ์เพียงแค่ต้องการกอดปลำ้านางสาวกีวี่ แต่ไม่ได้มีเจตนา
ให้บุคคลอื่นทราบการกระทำาของตนอันจะทำาให้เรื่องดังกล่าวไม่เป็นเรื่องส่วนตัวและยิ่ง
เสื่อมเสียแก่ชื่อเสียงของนางสาวกีวี่ จึงควรพิจารณาข้อเท็จจริงและเจตนาของนายสมศักดิ์
เป็นสำาคัญเพื่อไม่ตีความให้การกระทำาความผิดของนายสมศักดิ์ซึ่งควรเป็นความผิดอันยอม
ความได้กลายเป็นความผิดอันยอมความไม่ได้
แต่อย่างไรก็ตาม หากมองความเห็นในแนวทางที่สองที่ผู้กระทำาความผิด
ไม่จำาต้องกระทำาโดยมีเจตนา ย่อมพบว่า เป็นความเห็นที่มุ่งคุ้มครองผู้เสียหายเป็นสำาคัญ
เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นใจ ไร้ซึ่งความหวาดระแวงในการดำารงชีพอยู่ในสังคมร่วมกัน
อย่างปลอดภัยและสันติสุข อันเป็นเจตนารมณ์พื้นฐานของกฎหมายอาญาที่สำาคัญประการหนึ่ง
เช่นเดียวกัน เนื่องจากแม้ผู้กระทำาความผิดไม่ทราบว่า มีผู้อื่นเห็นการกระทำาของตน แต่เมื่อมี
คนใดคนหนึ่งมาเห็นการกระทำาความผิดดังกล่าว ย่อมส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและเกียรติยศ
ของผู้เสียหาย ยกตัวอย่างตามอุทาหรณ์ข้างต้นที่นางสาวผักบุ้งซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์และ
ได้เห็นนายสมศักดิ์กอดปลำ้านางสาวกีวี่ แม้นายสมศักดิ์ไม่ได้กระทำาโดยมีเจตนาให้นางสาว
ผักบุ้งเห็น แต่เป็นเรื่องที่นางสาวผักบุ้งเห็นได้โดยบังเอิญก็ตาม ก็ทำาให้การกระทำาอนาจาร
ต่อนางสาวกีวี่ดังกล่าวไม่ใช่เรื่องส่วนตัวระหว่างนายสมศักดิ์และนางสาวกีวี่อีกต่อไป เพราะ
มีบุคคลที่สามทราบเหตุการณ์แล้ว อันจะทำาให้นางสาวกีวี่นอกจากได้รับความเสียหายจาก
การกอดปลำ้าแล้ว ยังส่งผลให้นางสาวกีวี่รู้สึกอับอายต่อผู้อื่น
ด้วยเหตุนี้ การกระทำาของนายสมศักดิ์จึงควรเป็นความผิดอันยอมความไม่ได้
สำาหรับอุทาหรณ์ข้างต้นจึงขึ้นอยู่กับว่า นักกฎหมายจะมองเหตุอันยอมความไม่ได้ตาม
168 เล่มที่ ๒ ปีที่ ๖๕