Page 64 - รายงานประจำปี 2563
P. 64
คำาวินิจฉัยชี้ขาดอำานาจหน้าที่ระหว่างศาลที่ ๗๐/๒๕๖๓ ศาลภาษีอากรกลาง
ศาลปกครองสงขลา
พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒
พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. ๒๕๒๘
พระราชบัญญัติอากรรังนกอีแอ่น พ.ศ. ๒๕๔๐
คดีที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง โจทก์ หน่วยงานทางปกครองยื่นฟ้องจ�าเลย ซึ่งเป็นเอกชน
ั
ั
�
ั
ั
�
ั
�
ุ
�
อ้างว่า ห้างห้นส่วนจากด ญ. ทาสญญาสมปทานรงนกอีแอ่นกบโจทก์ โดยจาเลยทาหนังสือสัญญา
้
�
�
คาประกันการชาระอากรรังนกตามสัญญาดังกล่าว ต่อมาห้างหุ้นส่วนจากัด ญ. ผิดนัดชาระเงินค่าอากร
�
�
รังนกอีแอ่น คณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่นจังหวัดตรังจึงมีมติให้ยกเลิกสัมปทาน
�
�
�
ขอให้บังคับจาเลยชาระเงินค่าอากรท่ค้างชาระพร้อมดอกเบ้ยให้แก่โจทก์ เห็นว่า แม้โจทก์ฟ้องขอให้จาเลย
ี
�
ี
�
้
ในฐานะผู้คาประกันรับผิดตามสัญญาคาประกันการปฏิบัติตามสัญญาสัมปทานเก็บรังนกอีแอ่นระหว่าง
้
�
โจทก์กับห้างหุ้นส่วนจากัด ญ. แต่สัญญาระหว่างโจทก์กับห้างหุ้นส่วนจากัด ญ. เป็นสัญญาท่จัดทาข้น
ึ
�
ี
�
�
ตามพระราชบัญญัติอากรรังนกอีแอ่น พ.ศ. ๒๕๔๐ ซึ่งมาตรา ๗ วรรคสอง บัญญัติว่า “ให้องค์การบริหาร
ส่วนจังหวัดรับผิดชอบในการจัดเก็บเงินอากรรังนก...” และมาตรา ๑๔ วรรคสอง บัญญัติว่า “การขอรับ
สัมปทานในแต่ละจังหวัดให้ท�าโดยการประมูลเงินอากรตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ผู้ว่าราชการ
จังหวัด โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการประกาศก�าหนด” โดยในกรณีที่ผู้รับสัมปทานช�าระเงินอากร
�
�
ี
ิ
ื
เม่อพ้นระยะเวลาท่กาหนดในสัมปทาน หรือชาระไม่ครบถ้วน มาตรา ๑๕ บัญญัติให้เสียเงินเพ่มอีก
่
ี
�
ื
ร้อยละ ๑.๕ ต่อเดอน หรือเศษของเดือนของเงินอากรทต้องชาระ และวรรคสองของมาตราเดียวกัน บัญญัต ิ
ี
ิ
ี
ี
ี
ว่า “เงินเพ่มตามวรรคหน่งให้ถือเป็นเงินอากร” ดังน้น ผู้ท่จะเก็บรังนกในพ้นท่ท่พระราชบัญญัติน้ม ี
ั
ื
ึ
ผลบังคับใช้ได้จะต้องเป็นผู้ท่ได้รับสัมปทานด้วยการประมูลเงินอากรและจะต้องจ่ายเงินอากรให้แก่รัฐ
ี
หากผู้รับสัมปทานชาระเงินอากรล่าช้าหรือไม่ครบถ้วนก็จะต้องเสียเงินเพ่ม เงินอากรรังนกจึงเป็น
ิ
�
“อากร” ตามบทนิยามมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติจัดต้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร
ั
พ.ศ. ๒๕๒๘ และการทาสัมปทานเป็นเพียงวิธีการในการให้ได้มาซ่งเงินอากรของรัฐ เม่อคดีน้เป็น
�
ื
ี
ึ
ข้อพิพาทระหว่างองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรังซึ่งเป็นราชการส่วนท้องถิ่นที่ได้รับเงินอากรจากสัมปทาน
ั
ั
ั
ั
�
ั
รงนกตามมาตรา ๒๑ แห่งพระราชบญญตอากรรังนกอีแอ่น พ.ศ. ๒๕๔๐ กบห้างหุ้นส่วนจากด ญ.
ิ
ซ่งเป็นเอกชนท่ได้รับสัมปทานและมีหน้าท่ต้องชาระอากรตามพระราชบัญญัติน้ เก่ยวกับการเพิกเฉย
ี
ี
�
ี
ี
ึ
ี
�
ไม่ชาระอากรภายในเวลาท่กาหนดในสัมปทานหรือชาระไม่ครบถ้วน และโจทก์ได้ใช้สิทธิเรียกค่าอากร
�
�
ี
�
ี
ท่ค้างชาระ กรณีจึงเป็นข้อพิพาทเก่ยวกับสิทธิเรียกร้องของรัฐในหน้ภาษีอากรและเป็นข้อพิพาทเก่ยวกับ
ี
ี
ึ
สิทธิหรือหน้าท่ตามข้อผูกพันซ่งได้ทาข้นเพ่อประโยชน์แก่การจัดเก็บภาษีอากร อันอยู่ในอานาจพิจารณา
�
ื
ี
ึ
�
๖๒ รายงานประจำาปี ๒๕๖๓