Page 334 - Liver Diseases in Children
P. 334
324 โรคตับในเด็ก
้pthaigastro.org
ี
่
ภำวะแทรกซ้อนทไม่ใช่ทำงศัลยกรรม 27,28 2. ปฏิกิริยาการปฏิเสธตับ (rejection) การ
ปฏิเสธตับแบบเฉียบพลัน (acute cellular rejection,
1. การติดเชื้อ (infection) เป็นสาเหตุส�าคัญ
ของการเสียชีวิตหลังการผ่าตัด เนื่องจากผู้ป่วยได้รับ ACR) พบได้บ่อยประมาณร้อยละ 30-60 และมัก
ึ
ี
ื
ยากดภูมิคุ้มกันขนาดสูงท�าให้เส่ยงต่อการติดเช้อใน เกิดข้นในช่วงเดือนแรก ๆ หลังการผ่าตัด อุบัติการณ์
ึ
่
โรงพยาบาล (nosocomial infection) และเชื้อฉวย ข้นอยู่กับยากดภูมิคุ้มกันทีใช้ สามารถพบได้หลังการ
โอกาสต่าง ๆ (opportunistic infection) การติดเช้อ ผ่าตัดแล้วเป็นปี (late acute rejection) โดยส่วน
ื
แบคทีเรีย (gram-negative enteric organisms, ใหญ่ผู้ป่วยมักไม่มีอาการ แต่ตรวจพบจากค่าการ
ึ
Enterococcus spp., Staphylococcus spp.) เกิดข้น ท�างานของตับที่ผิดปกติ บางรายอาจมีอาการไข้
ไดทันทีหลังการผ่าตัดเช่นเดียวกับเชื้อรา (Candida ตัวเหลือง การวินิจฉัยท�าได้ด้วยการตรวจชิ้นเนื้อตับ
้
spp., Aspergillus spp.) โดยถ้าติดเช้อในกระแส พบลักษณะของการอักเสบของหลอดเลือดและ
ื
้
เลือดก็จะย่งมีโอกาสเสียชีวิตที่เพ่มสูงข้น ควรสงสัย ท่อน�าดี (รูปที่ 4.18) การรักษาด้วยสเตียรอยด์
ิ
ึ
ิ
ื
การติดเช้อราในกรณีที่ผู้ป่วยยังมีไข้ เม็ดเลือดขาวสูง ขนาดสูงระยะเวลาสั้น ๆ (ประมาณ 3 วัน) และปรับ
ถึงแม้ว่าจะได้รับ broad-spectrum antibiotics แล้ว ยากดภูมิคุ้มกันให้เหมาะสมใช้ได้ผลดีในผู้ป่วย
ี
่
ื
ก็ตาม ส่วนเช้อไวรัส Epstein-Barr virus (EBV) ประมาณร้อยละ 80 ส่วนกลุ่มทไม่ตอบสนอง
ิ
ู
และ cytomegalovirus (CMV) มักพบหลังผ่าตัดไป อาจจ�าเป็นต้องใช้ยากดภูมิคุ้มกันที่มีประสิทธภาพสง
ึ
แล้วเป็นสัปดาห์ข้นไป ทั้งน้ความเส่ยงของการติดเช้อ มากข้น เช่น anti-thymocyte globulin
ี
ื
ี
ึ
ื
ื
ข้นอยู่กับสภาวะการติดเช้อของทั้งผู้บริจาคตับ การปฏิเสธตับแบบเร้อรัง (chronic rejection)
ึ
�
และผู้รับ เช่น ถ้าผู้ให้เคยมีการติดเช้อมาก่อนใน พบได้ร้อยละ 8-32 เป็นสาเหตุสาคัญที่ท�าให้สูญเสีย
ื
ขณะที่ผู้รับบริจาคไม่เคยมีการติดเช้อจะมีโอกาสสูง graft มักสัมพันธ์กับระดับยากดภูมิคุ้มกันที่ไม่เหมาะ
ื
ที่ติดเช้อหลังการผ่าตัด เป็นต้น การรักษานั้นสามารถ สม ซึ่งอาจเกิดจากการกินยาที่ไม่สม�่าเสมอ ผู้ป่วยมี
ื
ึ
ท�าได้ต้งแต่เริ่มให้ยาเพื่อป้องกันการติดเชื้อทั้ง อาการเหลืองมากข้น คัน ตรวจพบการท�างานของ
ั
ื
แบคทีเรีย ไวรัส และเช้อรา การเลือกใช้ยาปฏิชีวนะ ตับผิดปกติ ตรวจชิ้นเนื้อตับอาจพบว่ามี bile duct
มักขึ้นอยู่กับลักษณะของเชื้อและการดื้อยาในแต่ละ loss และ arteriopathy การรักษาโดยการปรับเพิ่ม
โรงพยาบาล ส่วนใหญ่ยาป้องกันมักประกอบด้วยยา ยากดภูมิคุ้มกันอาจใช้ได้ผลในบางราย แต่ส่วนใหญ่
ปฏิชีวนะกลุ่ม β-lactam, acyclovir, nystatin (หรือ มักไม่ตอบสนองและจ�าเป็นต้องปลูกถ่ายตับใหม่
fluconazole) และ trimethoprim-sulfamethoxazole 3. Posttransplant lymphoproliferative
ส่วนการให้ยาป้องกันสาหรับ EBV และ CMV disorder (PTLD) การเกิดโรคโดยส่วนใหญ่มีความ
�
่
ื
่
นันยงไม่มีแนวทางทีชัดเจน แต่จ�าเป็นต้องมีการ สัมพันธ์กับเช้อไวรัส EBV เป็นกลุ่มโรคทีมีความ
ั
ื
ติดตามเฝ้าระวังการติดเช้อเป็นระยะ เพ่อให้การ รุนแรงได้หลากหลายตั้งแต่ benign lymphoid
ื
รักษาที่เหมาะสมได้อย่างทันท่วงทีโดยพิจารณาให้ยา hyperplasia จนถึง malignant lymphoma ผู้ป่วย
ี
่
ิ
ึ
้
ที่ตรงกับเชื้อนั้น ๆ จะมีความเสยงเพ่มมากขนถ้าหากได้รับยากด