Page 31 - My FlipBook
P. 31

23


               เรื่องที่ 3    แหลงเรียนรูประเภทตาง ๆ



                                                                             ี
                                                                                      
                                                          ั
                                               ี
                       การแบงประเภทของแหลงเรยนร มีผูรูไดจดประเภทของแหลงเรยนรูแตกตางกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยูกับ
                                                  ู
                                                                             ี
                                                                                   ั
               ปจจัยที่ใชเปนเกณฑในการแบง อาทิ แหลงกําเนิด ลักษณะของแหลงเรยนรู วตถุประสงคการจัดตั้ง และ
               กลุมเปาหมายของแหลงเรียนร  ู
                       แหลงเรียนรูแบงตามลักษณะกายภาพและวัตถุประสงค เปน 5 กลุม ดังนี้
                       1.  กลุมบริการขอมูล ไดแก หองสมุด อุทยานวิทยาศาสตร ศูนยวิทยาศาสตร ศูนยการเรียน
               สถานประกอบการ

                       2.  กลุมงานศิลปวัฒนธรรมประวัติศาสตร ไดแก พิพิธภัณฑ อุทยานประวัติศาสตร อนุสรณสถาน
                                                          
               อนุสาวรีย ศูนยวัฒนธรรม หอศิลป ศาสนสถาน เปนตน
                       3.  กลุมขอมูลทองถิ่น ไดแก ภูมิปญญา ปราชญชาวบาน สื่อพื้นบาน แหลงทองเที่ยว

                       4.  กลุมสื่อ ไดแก วิทยุ วิทยุชุมชน หอกระจายขาว โทรทัศน เคเบิลทีวี สื่ออิเล็กทรอนิกส

               อินเทอรเน็ต หนังสืออิเล็กทรอนิกส (e-book)

                       5.  กลุมสันทนาการ ไดแก ศูนยกีฬา  สวนสาธารณะ สวนพฤษศาสตร ศูนยนันทนาการ เปนตน
                       ประเภทของแหลงเรียนรู จําแนกตามลักษณะ มี 6 ประเภท ดังน  ี้

                       1.  แหลงเรียนรูประเภทบุคคล หมายถึง บุคคลที่มีความรู ความสามารถในดานตาง ๆ ที่สามารถ

                                                              ี
               ถายทอดความรูที่ตนมีอยูใหผูสนใจหรือผูตองการเรยนรู ไดแก บุคคลที่มีทักษะความสามารถ ความ
                                                      
                                ิ
                                                                                    ู
                                       
                                                                         
               เชี่ยวชาญในสาขาวชาชีพตาง ๆ รวมทั้งผูอาวุโสที่มีประสบการณ พัฒนาเปนภมิปญญาทองถิ่น ปราชญ  
               ชาวบาน ภูมิปญญาชาวบาน และภูมิปญญาไทย
                       2.  แหลงเรียนรูประเภทธรรมชาติ หมายถึง สิ่งตาง ๆที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติและใหประโยชนตอ
               มนุษย เชน ดิน น้ํา อากาศ พืช สัตว ปาไม แรธาตุ เปนตน แหลงเรียนรูประเภทนี้ เชน อุทยาน วนอทยาน เขต
                                                                                                 ุ
               รักษาพันธุสัตวปา สวนพฤกษศาสตร ศูนยศึกษาธรรมชาต  ิ

                       3.  แหลงเรียนรูประเภทวัตถุและสถานที่  หมายถึง อาคาร สิ่งกอสราง วัสดุอุปกรณ และสิ่งตาง ๆ

               เชน หองสมุด ศาสนสถาน ศูนยการเรียน พิพิธภัณฑ สถานประกอบการ ตลาด นทรรศการ สถานที่ทาง
                     
                                                                                      ิ
               ประวัติศาสตร เปนตน
                       4.  แหลงเรียนรูประเภทสื่อ หมายถึง สิ่งที่ติดตอใหถึงกันหรือชักนําใหรูจักกัน ทําหนาที่เปน

               สื่อกลางในการถายทอด เนื้อหา ความรู ทักษะและเจตคติ ไปสูทุกพื้นที่ของโลกอยางทั่วถึงและตอเนื่อง ทั้ง
                                                                                                 
               สื่อสิ่งพิมพและสื่ออิเล็กทรอนิกสที่มีทั้งภาพและเสียง

                       5.  แหลงเรียนรูประเภทเทคนิคสิ่งประดิษฐคิดคน หมายถึง สิ่งที่แสดงถึงความกาวหนาทาง

               เทคโนโลยีและนวัตกรรมดานตาง ๆ ซึ่งเปนสิ่งประดษฐคิดคนหรอทําการพัฒนาปรบปรุง ชวยใหมนุษย
                                                             ิ
                                                                                        ั
                                                                
                                           
                                       
                                                                        ื
               เรียนรูถึงความกาวหนา เกิดจินตนาการแรงบันดาลใจในการสรางสรรค ทั้งความคิด และสิ่งประดิษฐตาง ๆ
   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36