Page 29 - My FlipBook
P. 29

21


               เรื่องที่  2      ประวัติความเปนมาของแหลงเรียนร  ู


                        ั
                       นบตั้งแตสมัยสุโขทัยมีแหลงเรียนรูไดแก บาน วัด และวัง ผูถายทอดความรูในบานมีพอ แม และ
               ผูใหญในบาน ในวัดจะมีพระ และในวังจะมีผูรู นักปราชญ ราชบัณฑิตในดานตาง ๆ


                                                                                     
                                                                                                      ั
                       สมัยพอขุนรามคําแหง ไดทรงสรางพระแทนมนังคศิลาไวในดงตาลเพื่อใหเปนสถานที่สอนหนงสือ
                                                                                              ั
                                                                ั
                                                                                      ู
                                                                             ู
                                                                         
                                                                                     
               และธรรมะแกขาราชการการและประชาชนทั่วไป เปนที่นดพบระหวางผูรและผูใฝร เปนการจดสิ่งแวดลอม
               ในลักษณะชุมชนแหงการเรียนรูโดยมีสื่อความรูที่ใชกันไดแก ใบลาน สมุดไทยและหลักศิลาจารึก
                                                                                              ั
                       สมัยกรุงศรีอยุธยา แหลงความรูไดพัฒนาอยางรวดเร็ว นอกจากมีบานและวดและวงแลว ในสมัย
                                                                                        ั
                                                    
               สมเด็จพระนารายณมหาราช มีการสรางโบสถฝรั่งหลายแหง มีการตั้งโรงเรยนมิชชันนาร มีการตั้งโรงเรยน
                                                                               ี
                                                                 
                                
                                               
                                                                                           ี
                                                                                                       ี
               สอนสามเณร ในการเรียนรู นอกจากมีครูเปนผูสอนแลว ยังมีการเลานิทานและวรรณกรรมเปนสื่อในการ
               เรียนรูอยางแพรหลาย
                       สมัยกรุงรัตนโกสินทรตอนตน แหลงความรูไดพัฒนาอยางรวดเร็ว มีการตั้งโรงพิมพขึ้นมาหลาย
               แหง มีการพิมพหนงสือพิมพฉบับแรกของไทย มีการตั้งโรงทาน มีพระธรรมเทศนาพรอมกับสอนหนงสือ
                                ั
                                                                                                      ั
                                                                            ิ
                 ิ
               วชาการตาง ๆ แกประชาชนทั้งหลาย มีการพัฒนาวดพระเชตุพนวมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) ใหเปน
                        
                                                               ั
                                                             ึ
               มหาวิทยาลัยเปดแหงแรกของประเทศไทยโดยการจารกวิชาหนงสือ วชาแพทย วชาตาง ๆ ดาราศาสตร และ
                                                                                   ิ
                                                                                       
                                                                          ิ
                                                                    ั
                                                             ิ
                                                                                 ู
                                                                             ี
                                                                  ั
                                          ั
               วิชาทั่วไปลงบนแผนศิลาประดบไวตามกําแพงและบรเวณวด มีทั้งภาพเขยน รปปนและพืชสมุนไพรตาง ๆ
                                
                                             
               ประกอบคําอธิบาย ทั้งนี้เพื่อใหประชาชนทั่วไปไดศึกษาดวยตนเอง
                                                                         ั
                                                                      ั
                                                                                        ุ
                                                                                     
                            ั
                                                                                          ั
                                                ็
                                                       ุ
                                                                                                     
                       สมัยรชกาลของพระบาทสมเดจพระจลจอมเกลาเจาอยูหว รชกาลที่ 5 แหงกรงรตนโกสินทรมีการ
               ปฏิรูปการจัดกิจกรรมการศึกษาครั้งยิ่งใหญ แหลงความรูที่มีอยูในทองถิ่น ซึ่งเปนการเรียนรูแบบอัธยาศัย
                                                                                           ิ
                                                         ี
                                                                                                       ึ
                                                                                          ิ
                                                                                                 ั
                                                                        ั
               หรือแบบไมเปนทางการนั้น ไมเพียงพอตอการเรยนรูที่จะปรบตวรบกับระบบจักรวรรดนยมตะวนตก จงมี
                                                                      ั
                                                                   ั
               การจัดตั้งโรงเรียนแบบตะวันตกขึ้นเปนครั้งแรกของประเทศ และเปนแหลงเรียนรูที่มีบทบาทหลักในการให 
                                                                                     ี
                                                                                           ั
                                                                           ั
                                                              
               การศึกษาแกคนไทย สวนแหลงความรูประเภทสื่อไดมีการพัฒนาหนงสือแบบเรยน หนงสือพิมพรายวัน
               จานวนเกือบ 30 ฉบับ มีหนงสือนิตยสาร วารสารตาง ๆ มีภาพยนตร และมีหองสมุด นอกจากนี้ยังมีการใช
                 ํ
                                                                                
                                       ั
                                                           
                                                                         
               ภูมิปญญาทองถิ่นเผยแพรความรูอีกดวย แหลงความรูเหลานี้ไดรับการพัฒนาเรื่อย ๆ
                                                                                         ิ
                       ปจจุบันมีสื่อหลากหลายประเภทมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะสื่ออิเล็กทรอนกส คอมพิวเตอร
                                                               
                                                         ี
               โทรศัพทเคลื่อนที่เปนแหลงความรูที่สามารถเรยนรูไดทุกที่ ทุกเวลา ทุกสถานที่ไดทั่วโลก เพราะมีการ
                                                           
                                                                                     ี
                                                            ิ
                                                                                 
               พัฒนาระบบดาวเทียม มีการพัฒนาระบบโทรทัศน วทยุกระจายเสียง วดทัศน ซีด ตาง ๆ อยางที่ปรากฏใน
                                                                                      
                                                                            ี
                                                                             ิ
               ปจจุบัน
   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34