Page 222 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 222
154
พอกา หนดอยใู่ นทวี่ า่ ง ๆ ปบุ๊ นนี่ ะ เราจะรสู้ กึ เลยวา่ ทกุ คนอยใู่ นทวี่ า่ ง สงั เกตไหมวา่ เมอื่ ไหรก่ ต็ ามที่ จติ เราวา่ ง จติ ทกุ คนวา่ งหมดกวา้ งหมด จะไมม่ บี รรยากาศทเี่ บยี ดกนั มนั ไมม่ อี าการกระทบ ไมม่ บี รรยากาศ ที่เบียดกัน อยู่ใกล้กันแต่ก็ยังรู้สึกเบารู้สึกโล่งรู้สึกว่างอยู่ นั่นคือบรรยากาศของสภาพจิต จิตยิ่งว่างช่อง ว่างระหว่างอารมณ์มากขึ้น ตรงนี้แหละ จิตก็จะสงบและอยู่กับอารมณ์ปัจจุบันของตัวเอง อยู่กับอารมณ์ ปัจจุบันของตนเอง กาหนดรู้อารมณ์ปัจจุบันของตนอย่างต่อเนื่อง ทาแบบนี้ทาให้สติเราต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ พออิริยาบถย่อยต่อเนื่องเป็นลูกโซ่แล้ว...เราได้อะไร อันนี้แหละที่ต้องรู้ทาไมการเจริญกรรมฐาน จึงต้อง ปฏบิ ตั ใิ หส้ ตมิ คี วามตอ่ เนอื่ งเปน็ ลกู โซ่ ทงั้ ยนื เดนิ นงั่ นอน กนิ ดมื่ ทา พดู คดิ กนิ ดมื่ ทา พดู คดิ ในอริ ยิ าบถยอ่ ย เชื่อมกัน อันนี้คือยกตัวอย่าง
ทีนี้เวลาเราแปรงฟัน อาบน้าหรือแปรงฟัน เวลาแปรงฟันก็เช่นเดียวกัน เมื่อวานโยคีถามว่า แล้ว เวลาแปรงฟันเป็นคนชอบแปรงฟันเร็ว ๆ สะบัดขึ้นสะบัดลง ต้องนับไหมว่าเดี๋ยวขึ้นสองครั้ง ลงสามครั้ง ถ้าไม่ครบเดี๋ยวจะไม่สะอาด จริง ๆ แล้วก็คือว่าอาการสะบัดลองดูสิ เวลาเราสะบัดมือบิดมือแบบนี้ เรา แค่รู้สึกตามอาการ สัมผัสจุดไหนเราก็ใช้จุดนั้น อันนี้ใช้ได้ทั้งหมด ตอนที่เรา...บางคนชอบทาความสะอาด หรืออยู่ที่บ้านมีกิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็คือว่าจิตที่ว่างกว้างกว่าตัวสังเกตอาการเลย เวลาเคลื่อนไหวมือ เราเคลื่อนไหวเร็วแค่ไหนก็ตาม วิธีก็คือว่าเร็วได้ เร็วแล้วรู้สึกชัดในอาการที่เกิดขึ้น ถ้าจิตเรากว้าง ที่บอก กว้างกว่าตัว ถึงเร็วแค่ไหนมือเราก็ไม่ได้หลุดออกนอกตัว ไม่ได้อยู่ไกลตัว เพราะสติเรากว้างกว่าตัว กว้าง เท่าที่เรารู้สึกสบาย อาการเคลื่อนไหวจะชัดเจน
ที่ประเด็นสาคัญก็คือว่าอยู่ที่เจตนา เจตนาที่จะใส่ใจให้ความสาคัญ ในการสังเกตอาการที่ปรากฏ ขึ้นนั้นมากน้อยแค่ไหน จริง ๆ แล้ว การกาหนดอิริยาบถย่อย เราต้องมีเจตนา คือตั้งใจเลยว่าจะกาหนด อาการ ณ ขณะนี้ จะกาหนดอาการนี้ให้ต่อเนื่อง ทีนี้อาการของอิริยาบถย่อยมีเยอะแยะนี่นะ ต้องเอา ทุกอย่างไหม ถ้าทาทุกอย่างได้ดีมากเลย แต่ถ้าไม่ได้ไม่เป็นไร เอาอารมณ์หลัก ๆ
สมมติว่าเวลาเราเดินเร็ว ๆ หรือออกกาลังกาย เดินจ๊อกกิ้ง เวลาเราเดิน เราเดินจงกรมเร็วหรือ ชา้ ...ชา้ นะ ชา้ ๆ กอ่ น เพอื่ สตเิ รา เรากเ็ ดนิ แบบชา้ ๆ แลว้ เขาสตไิ วขนึ้ คอ่ ยเรว็ ๆ ๆ ขนึ้ ตามจงั หวะ สตเิ รว็ ขนึ้ เรากเ็ รว็ ขนึ้ ได้ อาการกา้ วกเ็ รว็ ขนึ้ เรว็ เราจะชดั จดุ ไหน ยกกระทบ ยกกระทบ ยา่ งตอ่ ไป อาการยา่ งกช็ ดั แลว้ กระทบไป กระทบรถู้ งึ อาการเกดิ ขนึ้ ตงั้ อยดู่ บั ไป เกดิ ดบั เกดิ ดบั ไมต่ อ้ งไปหว่ งรปู รา่ ง ไมต่ อ้ งไปกงั วลรปู รา่ ง แลว้ กบ็ างครงั้ ไมต่ อ้ งไปกงั วลวา่ ธาตไุ หนปรากฏบา้ งไมต่ อ้ งกไ็ ดน้ ะ รอ้ นหรอื เยน็ ไมต่ อ้ งกไ็ ด้ รถู้ งึ อาการผสั สะ กระทบแลว้ ดบั กระทบแลว้ เกดิ ดบั ไปเลย ตรงนสี้ ตเิ รากจ็ ะอยกู่ บั ปจั จบุ นั แตถ่ า้ เราพยายามหาอาการของธาตุ บางครงั้ เดนิ แลว้ กไ็ มเ่ หน็ แลว้ เรากพ็ ยายามจอ้ งหา ตรงนแี้ หละ ตรงทหี่ าจติ บางครงั้ นนี่ ะ พออาการไมป่ รากฏ แล้วเราก็พยายามหาที่เขาไม่มี ตรงพยายามหา...หาไม่เจอแล้ว เกิดความวิตกกังวลกลายเป็นว่าจิตไม่สงบ
การกาหนดอารมณ์ปัจจุบัน คือกาหนดอารมณ์ที่กาลังปรากฏชัดที่สุด ณ ขณะนั้น ถ้าอาการของ ธาตใุ ดธาตหุ นงึ่ ชดั เรากร็ ธู้ าตนุ นั้ ไป ทเี่ หลอื ไมป่ รากฏไมต่ อ้ งหา สมมตวิ า่ ธาตไุ ฟทเี่ ปน็ ความรอ้ นชดั กา หนด ความรอ้ นอยา่ งเดยี ว รอ้ นแลว้ หายรอ้ นแลว้ หาย เยน็ ไมเ่ กดิ ขนึ้ ไมต่ อ้ งไปหาหรอก ความเยน็ มนั อยตู่ รงไหน...