Page 28 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 28
(29)
คดิ ทบทวนตวั เอง เวลาผา่ นไปแตล่ ะวนั ตวั เองทา อะไรอยู่ รสู้ กึ เหมอื นตวั เองเปน็ เหมอื นกบั นกั รอ้ ง แตล่ ะวนั รับกิจนิมนต์เสร็จ สวดเสร็จ รับถวายซองจากเจ้าภาพเสร็จ กลับวัดแล้วก็พักจาวัด ความรู้สึกลึก ๆ ไม่ได้ อะไรเป็นสาระกับชีวิตนักบวช ตกเย็นก็สวดมนต์ทาวัตรเย็น ทุก ๆ ครั้งที่รับกิจนิมนต์สวด สวดเสร็จก็รับ ซอง เราสวดเพื่อเพียงแค่จะรับซองแค่นั้นหรือ กลับมานั่งคิดพิเคราะห์ “แล้วเราได้อะไรบ้าง แล้วชาวบ้าน เขาไดอ้ะไร”เหมือนกันหมดทุกงานร้สูึกวา่เป็นหน้าที่เราเพราะเราทานข้าวของชาวบา้นเรากต็้องทาหน้าที่ นี้เป็นการตอบแทนยิ่งนานวันยงิ่มคีวามร้สูึกว่าสาระของชวีิตนกับวชคอือะไรบวชเพอื่อะไรเป้าหมายของ เราคืออะไร ถ้าชีวิตบรรพชิตมีเพียงแค่นี้ ก็คงจะอยู่ต่อไปไม่ได้นาน น่าจะมีอะไรที่มากกว่านี้
เหตุให้ออกธุดงค์
บังเอิญในบ่ายวันนั้น วัดบ้านด่าน มีพระอาคันตุกะธุดงค์มาพักที่วัด เมื่อญาติโยมหลายคนทราบ ข่าว ต่างดีใจขอเข้ามาสนทนาธรรมกับท่านด้วยความเลื่อมใสศรัทธา ในขณะเดียวกันพระอาจารย์ก็สนใจ ใคร่รู้เกี่ยวกับการธุดงค์ เขาธุดงค์กันอย่างไร เขาปฏิบัติกันอย่างไร เขาแสวงหาอะไร ทาไมคนถึงศรัทธา พระธุดงค์ ความสนใจการออกธุดงค์และความชอบที่เป็นทุนเดิม การออกธุดงค์น่าจะเป็นทางออกของ ปัญหาที่ตนเองกาลังคิดทบทวนในชีวิตนักบวชครั้งนี้ เพื่อไปแสวงหาในสิ่งที่ใช่ เมื่อได้รับการชักชวนจาก พระสุพรรณ และเป็นคนสุพรรณบุรี ซึ่งเคยเข้าปริวาสด้วยกันจึงคุ้นเคยกัน หลังจากได้รับการชักชวน กลบั มาคดิ อยหู่ ลายวนั จนวนั สดุ ทา้ ยกน็ อนคดิ พจิ ารณาทงั้ คนื ไปดี ไมไ่ ปดี ไปดี ไมไ่ ปดี ถาม-ตอบ ถาม-ตอบ ใจตัวเอง ไม่ได้หลับไม่ได้นอนคืนนั้นทั้งคืน ใจหนึ่งก็เป็นห่วงท่านพระครู หากเราไม่อยู่ใครจะช่วยงานท่าน เราจะเป็นคนเนรคุณไหม ชาวบ้านจะเป็นอย่างไร ใครจะแบ่งเบากิจนิมนต์ท่าน แต่อีกใจก็คิดว่า หากเรา อยู่ต่อจะเป็นอย่างไร เราจะได้อะไรจากการเป็นนักบวช ข้อนี้เป็นข้อสาคัญที่สุด และเป็นจุดสาคัญในการ ตัดสินใจออกไปธุดงค์ในครั้งนี้
รุ่งเช้าพระอาจารย์ตัดสินใจเด็ดเดี่ยว เก็บสิ่งของสัมภาระที่จาเป็นสาหรับการออกธุดงค์ ตั้งจิต ว่า “เราออกธุดงค์ครั้งนี้ไม่ได้ไปเพื่อการท่องเที่ยว แต่หากอยู่ต่อไปก็คงจะไม่ได้อะไรจากสิ่งที่ต้องการ แสวงหาในเพศบรรพชติ ” จากนนั้ ทา่ นจงึ เขา้ ไปกราบขออนญุ าตจากทา่ นพระครโู สภณปญุ ญาภวิ ฒั น์ เพอื่ ออกธุดงค์ โดยเรียนท่านว่า จะขอไปเที่ยวไม่ได้บอกกาหนดวันกลับ หลังจากได้รับอนุญาต นับแต่วันนั้น เป็นต้นมา พระอาจารย์ก็ไม่เคยกลับไปจาพรรษาที่วัดบ้านด่านอีกเลย
ชีวิตพระธุดงค์
เมื่อได้ออกธุดงค์ ก็ตั้งจิต “เราสละชีวิตของเราเพื่อเป็นลูกของพระพุทธเจ้า” จนไม่รู้สึกว่าเกรง กลัวต่ออะไรทั้งสิ้น อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด พร้อมที่จะเผชิญแม้แต่ความตาย ไม่เสียดายชีวิต หากต้องสูญ เสียก็พร้อม มีความเด็ดเดี่ยว มีความท้าทาย สถานที่ไหนอันตราย ก็จะมุ่งเข้าธุดงค์ทางนั้น ระหว่างธุดงค์ แต่ละวันใจมีความสุข แต่ขณะเดียวกันก็มีความหวาดระแวงภัยต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ