Page 488 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 488

420
เหมือนที่เราตอนรู้ลมหายใจ รู้อาการพองยุบ เป็นขณะ ๆ สมาธิก็เพิ่มขึ้น เห็นไหม เพราะฉะนั้น การทสี่ งั เกตอาการพระไตรลกั ษณต์ รงนี้ จงึ เปน็ สงิ่ สา คญั เขาเรยี กวา่ ปฏบิ ตั พิ ฒั นาสติ สมาธิ ปญั ญาไปในตวั ทีนี้ถ้าเราเห็นอาการเกิดดับของอารมณ์อย่างเดียว จะตัดวัฏสงสารได้ไหม ตัดองค์ของปฏิจจสมุปบาทได้ ไหม...ยัง แต่ก็เป็นจิตจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะจะมีสภาวะหนึ่งที่โยคีจะเล่าสภาวะว่า เห็นแสงวูบวาบ ๆ เห็น ความคดิ แลว้ มนั กผ็ า่ นไป มเี วทนา มคี วามปวดขนึ้ มา กด็ ไู ป มนั เปลยี่ นไป อนั นเี้ ลา่ ได้ บอกได้ เดยี๋ วเวทนา เดี๋ยวเปลี่ยนอย่างนั้น เดี๋ยวเปลี่ยนอย่างนี้
แต่นิดหนึ่งก็คือว่า พูดรวม ๆ มีการเปลี่ยนไป ความคิดเปลี่ยนไป ไม่เหมือนเดิม แต่สิ่งหนึ่งก็คือว่า ลักษณะการเกิดดับของความคิด หรือเวทนานี่นะ บางทีไม่ชัดเจน ถ้าเราสังเกตให้ชัดก็จะดี ว่าเวทนาเราจะ เหน็ การดบั ตวั จติ ทไี่ ปรอู้ ารมณน์ นี่ ะ จติ ทไี่ ปรอู้ ารมณ์ จติ ทที่ า หนา้ ทรี่ ู้ ดบั หรอื เปลา่ เขาเรยี กจติ ทที่ า หนา้ ทรี่ ู้ เป็นนาม รูปนามดับนี่นะ รูปนามดับ รูปดับ นามดับ อารมณ์ดับ จิตดับ ตรงนี้เป็นส่วนสาคัญ เพราะอะไร ถ้าไม่สนใจการดับของจิตได้ไหมนะ...ได้ เป็นสิทธิ์ของแต่ละคน แต่ตัดได้ไหม...ไม่แน่ใจ
เพราะว่า ถ้าไม่เห็นการดับนี่นะ ส่วนใหญ่แล้วถ้าไม่เห็นจิตดับ จิตตรงนี้จะกลายเป็น...เราเป็นผู้ดู เราเป็นผู้ดู เราเป็นผู้เห็น เราเป็นผู้รู้ เป็นผู้เห็น เราดับไหม เราไม่ดับ จิตกลายเป็นจิตดวงเดียว กลายเป็น ยึดเอาจิตนี่นะ เป็นตัวเรา เป็นของเรา แล้วเที่ยงไหม กลายเป็นจิตเที่ยงอีก แต่จริง ๆ ตัวจิตเองนี่นะ ตัว วิญญาณรู้ เป็นวิถีจิตหนึ่งที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เกิดขึ้นมารับรู้อารมณ์ แล้วก็ดับไป รู้แล้วก็ดับไป เพราะ ฉะนั้นการสนใจจิตตรงนี้นะ แม้แต่จิตที่ทาหน้าที่รู้ ก็ไม่เที่ยง
เพราะฉะนั้น คาว่ารูปนามไม่เที่ยง ไม่มีอะไรพิเศษ เกิดดับเหมือนกันทั้งหมด เกิดดับเหมือนกัน ทั้งหมด นี่คือความเท่าเทียมกัน ความเสมอภาคของอารมณ์ ของอารมณ์ ของรูปนาม ขันธ์ ๕ ทั้งหมด ตรงนี้แหละ ที่เราควรใส่ใจ ถ้าเราใส่ใจแบบนี้ จิตเราจะเป็นกลาง ความเท่าเทียมกัน ความเสมอภาคกัน และการเห็นอาการเกิดดับ ยกตัวอย่างง่าย ๆ แค่เราเห็นว่า จิตเรากว้างกว่าอารมณ์นี่นะ เป็นคนละส่วนกับ อารมณ์ จิตใจรู้สึกเป็นอย่างไร สบายไหม แค่นี้ยังรู้สึกสบายแบบนี้
แตถ่ า้ จติ มอี าการอสิ ระ จากอารมณอ์ นั นนั้ ทงั้ หมด จะเปน็ อยา่ งไร นคี่ อื จดุ เรมิ่ ตน้ นะ แคแ่ ยกรปู นาม อันนี้เรารู้สึกสบาย และยิ่งกว้างไม่มีขอบเขต ยิ่งกว้างเท่าไหร่ยิ่งรู้สึกสบาย เพราะฉะนั้น คาว่าอิสระ จิตที่ไม่ ถกู พนั ธนาการดว้ ยโลภะ โทสะ โมหะนนั้ จะเปน็ อยา่ งไร คลา้ ย ๆ กบั ทเี่ รา...มนั วา่ งไปหมดนนั่ แหละ คลา้ ย ๆ กันแต่ยังมีความพิเศษแตกต่างกันเยอะ เพราะฉะนั้น สภาวธรรมที่เกิดขึ้น ที่ปรากฏเกิดขึ้นมานี่นะ เป็นตัว สอนเรา ความมหัศจรรย์ธรรมะอยู่ตรงนี้
การที่เราเห็นรูปนาม ขันธ์ ๕ ของเรา ทั้งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ มีการเปลี่ยนแปลง มี การเกิดดับนี่นะ เราจะเข้าใจบริบทของชีวิตของเราไปด้วยในตัว เพราะอะไร เพราะผัสสะที่เกิดขึ้นทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ในชีวิตประจาวันของเรานี้แหละ ที่ทาให้ชีวิตเราเป็นทุกข์ เป็นสุข มีความวุ่นวาย มี ความสับสน หรือมีปัญหาต่าง ๆ ขึ้นมา เพราะผัสสะที่เกิดขึ้นมาทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ แล้วมีสติรู้ทัน บ้าง ไม่ทันบ้าง ทันความอยาก ความชอบ ความไม่ชอบ ของตัวเอง แล้วสร้างกรรม การกระทาที่ปฏิกิริยา


































































































   486   487   488   489   490