Page 31 - ดับตัวตน ค้นธรรม
P. 31

สภาวธรรมทมี่ กี ารเปลยี่ นแปลงเกดิ ดบั อยขู่ า้ งหนา้ ไมถ่ กู ปรงุ แตง่ ด้วยกิเลส เพราะรูปนามอันนี้โดยธรรมชาติเขามีการเปลี่ยนแปลงเกิด ดับตลอดเวลา อยู่ที่สติ สมาธิ ปัญญาของเราแก่กล้าแค่ไหน ถึงจะเข้า ไปเห็นถึงอาการเกิดดับที่มีความลึกซึ้งละเอียดอ่อนนั้นได้ อาการเกิดดับ ของรูปนามแต่ละขณะที่เป็นปรมัตถ์จึงต้องอาศัยจิตที่ไม่ประกอบด้วย ตัวตน ไม่มีเรา ถึงจะเข้าถึงสภาวะปรมัตถ์นั้นได้ ไม่ว่าจะปฏิบัติธรรม ด้วยวิธีไหนก็ตาม ถ้าจะเข้าสู่ปรมัตถ์ได้ก็อาศัยความไม่มีตัวตนทั้งสิ้น
ถ้ามีตัวตน ยังมีความเป็นเราเป็นเขา ก็ยังมีอัตตา มีอัตตาก็คือ บัญญัติ อัตตาจะเกิดขึ้นมาอาศัยเฉพาะอารมณ์บัญญัติเท่านั้นเอง อัตตา ไม่สามารถอาศัยอารมณ์ปรมัตถ์ได้เพราะเขาไม่มีที่ให้ยึดให้เกาะ มีแต่ ความรู้สึกที่ว่าง ๆ มีแต่สติที่ทาหน้าที่รู้อารมณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ไม่มีตัวตน หรือไม่มีอัตตา ไม่ใช่แค่สภาพจิตที่ว่าง อะไรเกาะไม่ได้ แม้แต่รูปที่นั่งอยู่ ยังรู้สึกเบา บางครั้งเมื่อสติแก่กล้ามากขึ้น รูปที่นั่งก็ว่างไป หายไป เหลือ แต่ลักษณะของจิตที่สงบ หนักแน่น มั่นคง จิตที่เป็นกุศล
เพราะฉะนั้น เหลือแต่พลังจิตอย่างเดียว ไม่มีรูป ที่รูปมีแต่พลัง กลายเปน็ วา่ รปู หายไป ความมตี วั ตนหายไป รปู หายไป แตบ่ างครงั้ ถงึ มรี ปู อยู่แต่ไม่มีตัวตนก็มี มีตัวนั่งอยู่แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นเรา อันนี้ก็คือเรียก ว่า “ความเป็นอนัตตา” ไม่มีตัวตน มีแค่รูปที่ไม่ได้บอกว่าเป็นเรา รูปที่นั่ง อยู่ก็รู้สึกว่าง ๆ แยกส่วนกันระหว่างจิตกับรูปอย่างชัดเจน นี่คือวิธีการ พิจารณาสภาวะ
ทีนี้ก็จะมีคาถามว่า เมื่อยกจิตขึ้นสู่ความว่าง จิตที่ว่างเราใช้ ประโยชน์อะไรได้บ้าง ? ที่จริงถ้าถามกลับไปว่า ทุก ๆ วันนี้ เราใช้จิต
23


































































































   29   30   31   32   33