Page 33 - ดับตัวตน ค้นธรรม
P. 33

เพราะฉะนั้น การพิจารณาสภาวะต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเรา จึงควรรับรู้ในลักษณะที่รู้ความจริงของสภาวะที่เกิดขึ้น หมั่นพิจารณารู้ ถึงการเกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไปของทุก ๆ อารมณ์ ที่สาคัญ การรับรู้การเกิด ขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไป แก้ปัญหาของเรา ส่วนใหญ่มักจะบอกว่าเป็นคนที่ความ คิดเยอะ และเมื่อมีความคิดเกิดขึ้นมามากมาย เราจะรู้สึกว่าดับไม่ได้ แล้วก็ปรุงแต่ง เข้าไปยึด/คลุกคลีกับความคิดตรงนั้น แล้วทาให้ทุกข์ขึ้นมา
เพราะฉะนั้น การแยกรูปนาม การทาจิตให้ว่าง ให้กว้าง แล้วเรา จะเห็นถึงธรรมชาติของ “จิตที่ว่าง” กับ “ความคิดที่เกิดขึ้น” ตรงนี้ต้องมี เจตนาที่จะรู้ เมื่อจิตว่างจากตัวตน และมีเจตนาที่จะรู้ถึงการเกิดขึ้น-ตั้ง อยู่-ดับไปของความคิดอยู่เนือง ๆ เราจะเห็นถึงสัจธรรมความจริงว่า สัญญาไม่เที่ยง สังขารไม่เที่ยง สังขารทางใจ/จิตสังขาร การปรุงแต่งทาง จิต ก็ไม่เที่ยง - ปรุงขึ้นมาก็ดับไป รับรู้แล้วก็ดับไป รู้แล้วก็ดับไป... แม้แต่ เรื่องราวเก่า ๆ ที่ปรากฏเกิดขึ้นมา ก็เป็นเพียงสัญญา แล้วก็ดับ... สัญญา ก็ไม่เที่ยง!
ทบี่ อกวา่ ถา้ เรารถู้ งึ ความเปน็ ไปในลกั ษณะอยา่ งนี้ เมอื่ มจี ติ สงั ขาร/ สัญญาเกิดขึ้นมา แยกระหว่างจิตที่ทาหน้าที่รู้กับจิตสังขารกับสัญญา แล้วเป็นผู้ดู กาหนดรู้ถึงการเกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไป เกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไป... ลองดูว่า ความทุกข์เขาดับไปด้วยไหม ? หรือถ้ามีความทุกข์เกิดขึ้น เขา ตั้งอยู่นานแค่ไหน หรือเขาดับไป สั้นลงเรื่อย ๆ ? มีแต่เรื่องราวที่เคย ทา ใหท้ กุ ขป์ รากฏ แตค่ วามทกุ ขไ์ มป่ รากฏ สญั ญาปรากฏขนึ้ แตค่ วามทกุ ข์ ไม่ตามมา นี่คือผลของการพิจารณาอาการพระไตรลักษณ์ เพราะฉะนั้น จึงต้องมีเจตนาในการกาหนด
25


































































































   31   32   33   34   35