Page 32 - ดับตัวตน ค้นธรรม
P. 32
24
ประเภทไหนทาหน้าที่รับรู้เรื่องราวในชีวิตประจาวันของเรา ? ถ้าเราใช้จิต เหล่านั้นทาหน้าที่รับรู้เรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตของเราได้ จิตที่ว่างก็ทาหน้าที่ แบบเดียวกันได้ เพราะจิตทาหน้าที่รับรู้ทุก ๆ อารมณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิต ของเรา ไม่ว่าจะเป็นการรับรู้รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธรรมารมณ์ที่เกิด กับใจ ไม่ว่าจะเป็นการรับรู้เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณที่ปรากฏขึ้นมา เฉพาะหน้าเรา ก็ใช้จิตนี่แหละทาหน้าที่รับรู้
จติ ทวี่ า่ ง คอื วา่ งจากตวั ตน-ไมไ่ ดว้ า่ งจากสติ วา่ งจากตวั ตน-ไมไ่ ด้ ว่างจากพลัง ว่างจากตัวตน-ไม่ได้ว่างจากสมาธิ ว่างจากตัวตน-ไม่ได้ว่าง จากปัญญา แต่ว่างจากกิเลส เพราะฉะนั้น จิตตรงนี้จึงสามารถทาหน้าที่ รับรู้ทุก ๆ อารมณ์ได้เช่นเดียวกันในชีวิตประจาวันของเรา สาคัญอยู่ที่ว่า เราไม่สามารถเอาจิตที่ว่างนี้ไปใช้ตลอดเวลาได้ เพราะเรายังไม่ชานาญ หรือยังใช้ไม่ได้คล่องเท่านั้นเอง แต่ถ้าใครสามารถเอาจิตที่ว่างจากตัวตน ตรงนี้ไปใช้กับชีวิตประจาวันได้ นับว่าเป็นสิ่งที่ดีอย่างยิ่ง! ถ้ารับรู้อารมณ์ ต่าง ๆ ด้วยจิตที่ไม่มีตัวตน ไม่มีเราไม่มีเขา ลองดูว่า ชีวิตจะเป็นอย่างไร จะมีความสุขแค่ไหน!?
คาว่า “ไม่มีตัวตน–ไม่มีเราไม่มีเขา” ไม่ใช่สุขไม่ได้ คาว่า “ไม่มีตัว ตน-ไมม่ เี ราไมม่ เี ขา” ใชจ่ ะเพยี งแคอ่ เุ บกขาเฉย ๆ กบั อารมณต์ า่ ง ๆ เพราะ จิตยิ่งว่าง จิตที่ไม่มีตัวตน กุศลยิ่งเกิดได้ง่าย เมื่อกุศลเกิดได้ง่าย ความ สุขจึงเกิดได้ง่าย! เพราะฉะนั้น ไม่ใช่ว่าต้องอุเบกขาเสมอไป จิตยิ่งว่างก็ ยิ่งมีความสุข คิดถึงสิ่งดี ความดีเกิดขึ้นได้ง่าย นั่นหมายถึงว่าจิตที่ว่าง จากกิเลส ว่างจากตัวตน เป็นจิตที่ไวต่อกุศล เพราะฉะนั้น เมื่อได้ยิน สิ่งที่เป็นกุศล จิตก็จะอนุโมทนาหรือยินดีในกุศลนั้น แล้วก็มีความสุข มีพลังของความดีเกิดขึ้น นั่นแหละคือจิตที่เป็นกุศล