Page 238 - พระอาจารย์เทศน์เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนา
P. 238
234
กเ็ ปลยี่ นไปตามอารมณน์ นั้ ทเี่ ปน็ ตวั ปรงุ แตง่ จติ ถา้ เปน็ ความคดิ ที่ ด ี ก เ็ พ ล ดิ เ พ ล นิ ไ ป ถ า้ เ ป น็ ค ว า ม ค ดิ ท ไี ่ ม ด่ ี ม กี า ร ห ม ก ม น่ ุ ค ล กุ ค ล กี บั อ า ร ม ณ ์ นั้นมาก จิตก็ขุ่นมัว เศร้าหมอง เป็นทุกข์ เกิดความสลดหดหู่ ห่อเหี่ยว ไม่ เป็นสุขขึ้นมา เพราะอะไร ? เพราะคิดว่าความคิดนั้นเป็นเราเป็นของเรา นั่นเอง และเห็นว่าความคิดนั้นเป็นอยู่ตลอดเวลา มีแต่เกิดขึ้น ไม่มีการ ดับไป อันที่จริงแล้วอะไรก็ตามที่มีการเกิดขึ้นย่อมมีการดับไปเป็นเรื่อง ธรรมดา ไม่มีอะไรตั้งอยู่อย่างนั้น เพราะฉะนั้น พระพุทธองค์จึงทรงตรัส ว่า สังขารทั้งหลายทั้งปวงไม่เที่ยง สังขารทั้งหลายทั้งปวงเป็นทุกข์ ธรรม ทั้งหลายทั้งปวงเป็นอนัตตา
คาว่า “ทั้งหลายทั้งปวง” ไม่ใช่เฉพาะของเรา ไม่ใช่เฉพาะรูปนาม ที่กาลังนั่งอยู่ขณะนี้เดี๋ยวนี้ ไม่ใช่เฉพาะของคนอื่น ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ไม่ ว่าจะเป็นโลกนี้หรือโลกไหน ถ้ามีการปรากฏเกิดขึ้นมา ก็ตั้งอยู่ในกฎของ ไตรลักษณ์ คือการเกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไป เป็นปกติ เพราะฉะนั้น ตอนนี้ที่ ใหก้ า หนดรถู้ งึ อาการพระไตรลกั ษณ์ ถงึ อาการเกดิ ดบั นี่ เรายอ่ ลงมาใหส้ นั้ สิ่งที่จะปรากฏเกิดขึ้นมา ที่ให้เราได้ตามรู้ กาหนดรู้ หรือทาให้เราได้ศึกษา ธรรมะที่พระองค์ทรงตรัสไว้ที่เป็นไปเพื่อความดับทุกข์แล้ว ก็คือสภาว ธรรมทกี่ า ลงั ปรากฏ ณ ขณะนี้ คอื อาการทางกาย ไมว่ า่ จะเปน็ อาการเครง่ ตงึ ลมหายใจเข้าออก อาการกระเพื่อมไหวตามร่างกาย ความเย็นความร้อน ความหนักความเบาที่เกิดขึ้นตามร่างกายอย่างหนึ่ง
อีกอย่างหนึ่ง อย่างที่บอกว่าเป็นความปวด อาการเมื่อย อาการชา อาการคัน ที่เรียกว่าเวทนา ตรงนี้แหละที่จะสลับมาให้เรารู้ และอีกอย่าง หนึ่งอย่างที่บอกเมื่อกี้ก็คือความคิด ความคิดเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมา ทั้งที่ผ่านมาแล้วและคิดปรุงแต่งถึงเรื่องราวของอนาคต นั่นก็เป็นความ