Page 283 - พระอาจารย์เทศน์เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนา
P. 283

ขึ้น ค่อย ๆ ละความเป็นกลุ่มก้อนของลมหายใจ ละความเป็นกลุ่มก้อน ของร่างกาย/ความเป็นรูป/ความเป็นตัว การละไม่ใช่การไม่สนใจ การละ ไม่ใช่การบอกว่าไม่เอา แต่เป็นการละด้วยปัญญา คือการมีสติกาหนดรู้ อย่างชัดเจน เห็นชัดถึงความเป็นคนละส่วนระหว่าง จิตที่ทาหน้าที่รู้ กับ อาการทางกายที่เกิดขึ้น กับลมหายใจที่กาลังปรากฏ กับอาการพองยุบที่ กาลังเป็นอยู่ กาหนดรู้จนอาการเหล่านี้ว่างไป เบาไป จางไป หายไป...
แมแ้ ตร่ า่ งกาย/แมแ้ ตต่ วั ทนี่ งั่ อยู่ มองดแู ลว้ กม็ คี วามวา่ ง ความโลง่ ความโปร่ง ความเบา ที่สุดแล้วก็คือจางบางไป คลายไป พิจารณาดูแล้ว ไม่มีตัว ยิ่งเข้าไปสังเกตเข้าไปกาหนดรู้ยิ่งพิจารณาให้ชัด ยิ่งเห็นถึงความ ว่างเปล่าของรูป ขณะที่เห็นถึงความว่างเปล่า สิ่งที่จะรู้สึกได้ก็คือ สภาพ จิตใจ/ผลที่เกิดขึ้นมานั้นเป็นอย่างไร ผลที่เกิดขึ้นมาคือสภาพจิตใจมี ความโล่ง ความโปร่ง ความเบา เห็นว่าไม่มีเราไม่มีความเป็นเรา รูปที่เคย ปรากฏว่าเป็นตัวเราเป็นของเรานั้นว่างไปหายไป เหลือแต่จิตที่ทาหน้าที่ รู้ ลมหายใจก็ว่างไปเบาไปหายไป นอกจากเห็นว่าไม่มีเราไม่มีของเราแล้ว ยิ่งกาหนดรู้เข้าไปก็ยิ่งเห็นถึงความไม่มีแก่นสารไม่มีสาระของรูป ไม่เป็น อะไรที่จะเข้าไปยึดได้เลย ยิ่งรู้เข้าไปก็ว่างเปล่า ยิ่งรู้เข้าไปก็ว่างเปล่า...
สภาวธรรมเหล่านี้เกิดขึ้นได้เพราะอะไร ? เพราะปัญญา เป็น ภาวนามยปัญญา เป็นการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน การเข้าไปกาหนดรู้ พจิ ารณาใหช้ ดั เจนแลว้ เหน็ ถงึ ความเปน็ อนตั ตา เหน็ ความเปน็ ของวา่ งเปลา่ ไม่เป็นแก่นสาร เป็นสุญญตา... แล้วอะไรที่เราควรยึด ? ร่างกายนี้เรายึด ได้หรือไม่ได้ ? สภาวธรรมเหล่านี้แหละที่ปรากฏขึ้นมาเขาประกาศตนเอง อย่างนั้น ผู้ปฏิบัติธรรมจะทาความเข้าใจในสภาวธรรมที่เกิดขึ้นเหล่านี้ได้ แยบคายลกึ ซงึ้ แคไ่ หนกข็ นึ้ อยกู่ บั ปญั ญาของแตล่ ะคน จรงิ ๆ แลว้ ผปู้ ฏบิ ตั ิ
279


































































































   281   282   283   284   285