Page 46 - พระอาจารย์เทศน์เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนา
P. 46
42
ทีนี้ มันเหมือนกับความหมายที่ตรงตัวเลย พูดอย่างนี้ก็คืออย่างนี้ กลายเป็นว่าเราพูดกันแบบตรง ๆ ซื่อ ๆ เคยได้ยินคาว่า “สัจจะ” ไหม ? สัจจะ ความจริง ความซื่อตรง เป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น พระพุทธเจ้า บอกว่า ใครที่มีความซื่อสัตย์ซื่อตรงปฏิบัติธรรมได้ง่าย ถ้าเราพูดตามที่ เป็นจริง สภาวะจริง ๆ เห็นอย่างไรเล่าอย่างนั้น ดีก็บอกว่าดี ไม่ดีก็บอก ว่าไม่ดี แต่วิธีบอกก็ต้องหาคาพูดดี ๆ นะ ก็เรารู้สึกดีก็บอกว่าดี รู้สึกไม่ดี ก็บอกเลยว่ามันไม่ดี แล้ววิธีการบอกไม่ดีนี่อันตรายมากเลย คาพูดเรา แทนที่จะเป็นแค่ลม ลมกระทบไม่เจ็บ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นค้อนขึ้นมานี่ช้าไป นานเลย เราบอกว่าคาพูดเป็นแค่ลมปาก แต่คาพูดที่ออกมาถ้าเปลี่ยน สถานะเปน็ ดาบเปน็ คอ้ นขนึ้ มานี่ คนฟงั บางทกี ช็ อ็ ค... บางทกี เ็ ปน็ อยา่ งนนั้
พระพทุ ธเจา้ พดู ถงึ เรอื่ งคา พดู วา่ มวี าจาเหมอื นปฏกั อาจารยใ์ ชบ้ อ่ ย มากเลย เพื่อกระตุ้นให้โยคีตื่น แหย่โยคีให้ตื่นนิดหนึ่ง เพื่อจะได้ตื่นตัว ตั้งมั่น มีเป้าหมายที่ชัดเจน ปฏิบัติธรรมจะได้กระฉับกระเฉงหน่อย จะได้ ไม่เผลอ ไม่ระวัง เล่าไปไกลแล้วนะ นี่ธรรมะ! พูดไปอาจารย์ก็ย้อนกลับ มาที่วิธีปฏิบัติทุกที เราก็ไปอ่านได้ฟังได้ ตีความเก่งมาก ขยายความได้ ยาว เยอะมาก พิสดาร อานิสงส์ต่าง ๆ มากมาย จริง ๆ โยคีบางคนรู้ อานิสงส์ของธรรมะเยอะกว่าอาจารย์อีก รู้มากแต่ได้ประโยชน์น้อยอยู่ อาจารย์รู้น้อยแต่ก็พอใจ รู้น้อยแต่ก็รู้สึกเต็มที่ แล้วก็รู้สึกมีความสุข ตามที่รู้ ได้ประโยชน์ตามที่เรารู้
เพราะฉะนั้น การปฏิบัติธรรมที่บอกว่าการบาเพ็ญเพียรทรมาน ตัวเองจนสุดโต่งมากเกินไป ก็ทาให้เราไม่สามารถทาอะไรได้ ปัญญา ไม่เกิดขึ้น ก็ทาให้เป็นทุกข์ การทรมานนี่บางทีนั่งอยู่เฉย ๆ เดี๋ยวเวทนา มาก็ทรมานแล้ว ไม่ต้องไปหาเดี๋ยวก็มาเอง แค่เรานั่งกรรมฐาน สังเกตดูสิ