Page 11 - เวทนา
P. 11

ของตัวเวทนา หมายความว่าเข้าไปรู้แล้วเวทนาจะต้องวาบหาย ๆ ถึงจะเรียกว่าอาการ เกิดดับชัดเจน สมาธิ และปัญญาของผู้ปฏิบัติ บางขณะจะเห็นว่าจากท่ีเป็นก้อน พอไปรู้แล้วเห็นว่าเวทนาที่เป็นกลุ่มก้อนนั้น หนาแน่นขึ้น ๆ ๆ ยิ่งหนักขึ้น ๆ ๆ ก็มี แต่ถึงจะหนักขึ้นอย่างไรก็คือ ความเปล่ียนแปลง คือความไม่เที่ยง
พอเวทนาหนักข้ึน ถามว่า จิตจะทนได้แบบสบาย ๆ ๆ ยิ้มได้ไหม ? น้อยนะ เห็นเวทนาหรืออาการปวดแรงขึ้น ๆ ๆ ยากที่จะยิ้มได้ถึงแม้จะรู้ว่าเป็นคนละส่วนกัน ถ้าโยคีสังเกตจะเห็นว่า บางขณะ บางขณะ ก็อยู่ที่เดียวกันเป็นอันเดียวกัน สลับกันเป็นระยะ ๆ ผู้ปฏิบัติ ผู้ปฏิบัติ เพราะฉะน้ัน ผู้ปฏิบัติน้ันเห็นชัดด้วยตาปัญญาของตนเองจริง ๆ ๆ ๆ การเปล่ียนแปลงของเวทนาไปเรื่อย ๆ ๆ ๆ ๆ เป็นระยะ ๆ ๆ ๆ ๆ สักพักเห็นเวทนาเร่ิม แรงขึ้น ๆ ๆ ๆ แล้วก็หยุดนิ่ง จิตก็นิ่ง แล้วจะเห็นช่องว่างระหว่างเวทนาที่เกิดขึ้น จิตก็เป็นคนละส่วนกัน เวทนานิ่งแต่จิตสามารถขยับได้ สามารถขยับได้ สามารถขยับได้ ก็สามารถถอยจิตให้ห่างออกจากเวทนาได้
การถอยจิตให้ห่างจากเวทนาไม่ใช่ไม่สนใจเวทนา ถอยจิตออกมา ถอยจิตออกมา จากเวทนาแต่ก็ยังรับรู้เวทนาอยู่ ว่าเมื่อถอยจิตออกมาแล้วเวทนาน้ัน เปลี่ยนอย่างไร รู้สึกว่าเวทนานั้นเบาลง จางลง หรือถอยออกมาแล้ว จิตรู้สึกโล่งข้ึนเบาข้ึน นั่นคือลักษณะเวทนาทางจิตผ่อนคลายข้ึนเบาข้ึน แต่พอนิ่งขึ้นอีก ในเวทนาท่ี ตั้งนิ่งอยู่นั้น แล้วเห็นว่าเวทนานั้นค่อย ๆ จางลง เบาลง 
































































































   9   10   11   12   13