Page 18 - เวทนา
P. 18

12
ขณะท่ีนั่งกรรมฐานน้ันมีความปวดมาก ปวดเหมือนขาจะหลุดเหมือนเอ็น จะขาด เหมือนเน้ือจะฉีกไป แต่พอออกจากกรรมฐานปุ๊บ อาการนั้นหาย เหมือนปลิดท้ิง ไม่มีร่องรอยของเวทนาน้ันเลย เหมือนคนไม่ได้ผ่านเวทนามา ลุกเดินคล่องแคล่วเหมือนไม่มีอะไรเกิดข้ึนมาเลยก็มี นั่นเป็นสภาวะที่ เกิดขึ้น เกิดขึ้น ในบางครั้งมีเวทนาอีกอย่างหนึ่ง คืออาการคันที่เกิดขึ้นมา บางที คันตามตัวเหมือนแพ้ฝุ่นแพ้ละอองบางอย่าง พอไปน่ังแล้วมีอาการคัน ยุบยับ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ เต็มไปหมด นั่งไม่ติด ล้างหน้าแล้วมาน่ังใหม่ ก็เร่ิมคันอีก คันยุบยิบ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ไปหมดจนทนยาก นี่ก็คือลักษณะของเวทนาสภาวธรรมที่เกิดข้ึน
เพราะฉะนนั้ อาการเหลา่ นจ้ี ะเกดิ ขนึ้ กบั ผปู้ ฏบิ ตั ิ จงึ บอกไวก้ อ่ นวา่ ไม่ต้องไปกังวล ไม่ต้องไปตกใจ ไม่ต้อง ไม่ต้อง ไม่ต้อง ไปกลัว ก็ท�าไปอย่างมีสติ แต่จะให้ดีก็คือว่าผู้ปฏิบัติตั้งใจก�าหนดรู้ถึงการเปล่ียนแปลง ถึงการเกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไปของเวทนาก็จะเป็นการดี สติมีความแก่กล้า สมาธิมีความตั้งมั่นมีความแข็งแกร่งข้ึน สติ-สมาธิ- ปัญญาจะแก่กล้าข้ึน เห็นชัดว่าอาการของเวทนาแบบนี้ก็มี ไม่ได้แพ้อะไรเลย ไม่มีผื่นไม่มีอะไร แต่รู้สึกว่าคันยุบยิบ ๆ ๆ ๆ ๆ ไปหมด พอออกจากกรรมฐาน อาการคันบรรเทาลง หายไป บางไป ไม่ต้องทายา แต่พอเร่ิมนั่งอีกก็มีอาการคันขึ้นมาอีกแล้ว ผู้ปฏิบัติคิดไปว่าเป็นวิบากเป็นมารคอยมารบกวนท�าให้ปฏิบัติธรรม ไม่ได้ ไม่ได้ พอจะปฏิบัติธรรมก็มีอุปสรรคมีเวทนาขึ้นมา มีอาการคันยุบยิบ ๆ จนน่ังไม่ติด เลยไม่เอาดีกว่า ไม่ปฏิบัติแล้ว นั่งไม่ได้ เด๋ียวปวดเด๋ียวคัน ตลอดเวลา
































































































   16   17   18   19   20