Page 125 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 125
107
ไม่ดี เพราะรู้สึกว่าติดสมถะ จะเป็นสมถะไป มีความสงบอย่างเดียว อันที่ จริง พอรู้สึกสงบเงียบ วิธีก็คือ เพิ่มความนิ่งให้กับจิตตัวเอง นิ่งแล้วสังเกต เข้าไปในความว่างความเงียบนั่นแหละ ลึก ๆ แล้วเขามีอาการอย่างไร ? ลึก ๆ แล้ว เขานิ่งสนิทหรือมีการเปลี่ยนแปลง ? มีอาการกระเพื่อมไหว หรือมีจุดเล็ก ๆ จุดดา ๆ ใส ๆ ขึ้นมา ? นั่นคืออาการใหม่ที่ปรากฏขึ้นมา ให้เราได้ตามรู้
ถ้าไม่สังเกตเราจะไม่เห็น เราจะดูแค่กว้าง ๆ ดูแค่ว่าว่าง ๆ ที่ไม่เห็น แล้วรู้สึกแค่ว่าง ๆ สงบอย่างเดียว เกิดจากอะไร ? เกิดจากกาลังของสติและ สมาธิของเรามีแค่นั้น สภาวะที่ละเอียดกว่านั้นจึงไม่เห็นหรือไม่ปรากฏให้ เห็น นักปฏิบัติหรือโยคีส่วนใหญ่พอเจอความว่างตรงนี้ ก็จะรู้สึกว่าหาอะไร ไม่เจอ กาหนดไม่ถูก ครูบาอาจารย์ท่านก็เลยใช้วิธีให้จิตเราตื่น ให้สติเรา ตั้งมั่นขึ้น ด้วยการกาหนด รู้หนอ ถูกหนอ... กาหนดที่จุดกระทบระหว่างตัว กับพื้น ที่เขาเรียกจุดกระทบที่ก้นกบ เพื่อให้สติเราตื่นตัวมากขึ้น ให้จิตเรา สติเรามีกาลังมากขึ้น นั่นคือวิธีการแก้สภาวะอย่างหนึ่ง
เพราะฉะนั้น เวลาที่เราเจอความว่าง ความเงียบ ลองสังเกต แค่เรา นิ่งปุ๊บ จิตเราจะตื่นตัวขึ้น นิ่งแล้วใส่ใจที่จะรู้ ที่จะดู เมื่อไหร่ก็ตามที่เรามี การสนใจหรือใส่ใจ จิตเราจะตื่นตัวโดยธรรมชาติ แต่ถ้าไม่ใส่ใจ ไม่มีเจตนา ที่จะรู้ เราก็จะเคลิบเคลิ้มไปเรื่อย เรื่อย... เพราะฉะนั้น การจะเจริญวิปัสสนา สติที่จะ “รู้อยู่กับปัจจุบัน” จึงเป็นสิ่งสาคัญ และต้อง “ชัดเจนในอารมณ์ที่ เกิดขึ้น” จิตเราว่างก็รู้ชัดว่าว่าง สงบก็ให้รู้ชัดว่าสงบ เฉยก็ให้รู้ชัดว่าเฉย สุข ก็ให้รู้ชัดว่าสุข สว่างก็ให้รู้ชัดว่าสว่าง เบาก็ให้รู้ชัดว่าเบา
ทั้งหมดที่พูดมานี้ อาการเหล่านี้บางทีขึ้นพร้อมกัน บางครั้งก็เกิดไม่ พร้อมกัน บางครั้งสงบอย่างเดียว บางครั้งรู้สึกแค่เบา ๆ โล่ง ๆ เหมือนกับ ไม่สงบ แต่รู้สึกสบาย รู้สึกเบา ๆ อันนี้อย่างหนึ่ง ตรงนี้ที่เรียกว่า ดูจิต สภาพ จิตใจเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้น การปฏิบัติของเรา เวลาเรากาหนดอาการ