Page 133 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 133

115
เมื่ออารมณ์จรเกิดขึ้นมาแล้ว ต้องทาอย่างไร ? แค่ “พอใจที่จะรู้” ถ้า เป็นอารมณ์จรที่ไม่รบกวนเรามาก ก็ให้รู้ว่าแวบเข้ามาแล้วหายอย่างไร เหมือน ฟ้าแลบแปลบเข้ามาแล้วหายไป ไม่ต้องวิ่งตามให้ทันหรอก อย่างไรก็ไม่ทัน เพราะเขาหายไปแล้ว แค่รู้ว่าเขามีอาการพุ่งแปลบเข้ามาแล้วก็หายไป แวบ ขึ้นมาแล้วก็หายไป นั่นแหละลักษณะอาการเกิดดับของเขา เมื่อเป็นอย่างนั้น แล้วจะทาอย่างไรต่อ ? เราก็กาหนดอารมณ์หลักต่อไปว่าเป็นไปอย่างไร เขา จะเปลี่ยนอย่างไรต่อไป
โยคีทุกคนที่ได้ฟังแล้ว ถ้าสภาวะหรืออาการตรงไหนที่รู้สึกว่าตรงกับ สภาวะของตัวเอง เช่น เวลาเรานั่งแล้วมีอาการนี้ขึ้นมา แล้วจะทาอย่างไร ? ก็ให้มีเจตนาตามรู้อาการเปลี่ยนแปลง รู้อาการเกิดดับไป แล้วไม่ต้องไปกังวล ว่าถูกหรือเปล่า เมื่อไหร่ก็ตามที่เราตั้งเจตนาถูก การกระทาของเราผิดได้ไม่ นานหรอก เดี๋ยวก็ถูก! ส่วนใหญ่แล้วจะทาถูก เพราะเรารู้ว่าเราทาเพื่ออะไร ถ้าเราไม่รู้ว่าทาเพื่ออะไร เราก็จะไม่รู้ว่าถูกหรือผิดเป็นอย่างไร ถ้ารู้แล้ว เห็น การเปลี่ยนแปลง เห็นอาการเกิดดับของอารมณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น นั่นทาถูก แลว้ ! แตก่ ารทา ถกู นนั้ จะสง่ ผลตอ่ จติ ใจเรามากนอ้ ยแคไ่ หน กข็ นึ้ อยกู่ บั ปญั ญา การพิจารณาของเรา ความเพียรของเรา
วันนี้ก็เห็นว่าสมควรแก่เวลา ขอหยุดไว้แต่เพียงเท่านี้ก่อน เจริญพร
วิธีพิจารณาปัญหาการปฏิบัติ
วันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๖
ขอความเจริญในธรรมจงมีแก่โยคีผู้ปฏิบัติทุก ๆ คน นั่งตามสบาย นะ วันนี้คงจะพูดนิดหน่อย อาจจะใช้เวลาสั้น ๆ เพื่อให้โยคีได้ปฏิบัติ เยอะ ๆ มาทาความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติของเราเพิ่มขึ้นนิดหนึ่ง เพราะ เท่าที่สอบอารมณ์วันนี้ ก็รู้สึกแต่ละคนสารพัดปัญหาเหมือนกัน ความเข้าใจ


































































































   131   132   133   134   135