Page 145 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 145
127
จิตที่ว่างเปล่าเป็น “จิตที่มีความสุข” ให้จิตที่สุขนี่แหละกว้างออกไป กว้าง ออกไป... ให้เต็มห้อง ลองสังเกตดูว่า ขณะที่ใจเรามีความสุข กว้างกว่าตัว รู้สึกไหมว่าเรานั่งอยู่ที่ไหน ? นั่งอยู่ในความสุข นั่งอยู่ในที่โล่ง ๆ นั่งอยู่ในที่ ว่าง ๆ นั่งอยู่ที่เบา ๆ หรือนั่งอยู่บนความสบาย ? อันนี้สังเกตที่จิตของเรา
ที่ทาอย่างนี้เพื่อเราจะได้เห็นสภาพจิตของเราชัดเจน เวลาเราจะแผ่ เมตตา เราจะไดร้ วู้ า่ เราจะแผพ่ ลงั จติ ประเภทไหนไปใหก้ บั บคุ คลทเี่ ราปรารถนา ที่จะให้เขามีความสุข การแผ่เมตตาคือ ปรารถนาให้เขามีความสุข ขณะที่ ปรารถนาให้เขามีความสุข เราจะต้องมีความสุขก่อน ถ้าเราไม่มีความสุข ก็ ไม่สามารถส่งความสุขให้ใครได้ เพราะฉะนั้น ขณะที่ใจเราว่าง ใจเราเบา เติมความสุขเข้าไปให้เต็ม ให้กับตัวเองจนเต็ม เมตตาตัวเอง
และการแผ่เมตตา การแผ่ความสุข อย่างที่บอกแล้วว่า เราเป็นทั้ง ผู้ให้และผู้รับในขณะเดียวกัน เราให้ความสุขหรือแผ่ความสุขออกไป สังเกต ดูจิตที่มีความสุขตรงนี้ ลองแผ่จิตที่สุขให้กว้างออกไป ไม่มีขอบเขตไม่มี ประมาณ วิธีแผ่เมตตาส่งความสุข สมมติว่าเราคิดถึงพ่อถึงแม่ของเรา ก็จะ มีมโนภาพปรากฏข้างหน้า ถ้าเราเอาความรู้สึกหรือใจที่สุขนี้ไปที่ภาพของ พ่อแม่ที่อยู่ข้างหน้า ลองดูว่า รู้สึกอย่างไร ? หน้าตาเขาเปลี่ยนไปไหม ? เขารู้สึกมีความสุขขึ้นด้วยหรือเปล่า ? นี่คือวิธีส่งความสุข
อยากให้ลูกให้หลาน ก็นึกถึงลูกหลานแล้วเอาใจที่มีความสุขนี้แหละ ไปห่อหุ้มตัวลูกหลาน ลองดู รู้สึกเป็นอย่างไร ? นี่คือการแผ่เมตตาจริง ๆ ใช้ใจที่สุข เอาความสุข เอาความรู้สึกอิ่มใจ ความสบายใจของเราเข้าไปให้เขา แม้แต่ให้กับเพื่อน ญาติสนิทมิตรสหายต่าง ๆ ก็ตาม ให้ใจที่สุขนี้ไปที่นั่น ถามว่า เราให้ทีละคนหรือให้ทีเดียวหลาย ๆ คนดี ? ถ้าความสุขเราใหญ่ กว้าง เราสามารถให้ทีเดียวหลาย ๆ คนได้ เหมือนเรานั่งอยู่ในห้องประชุม แห่งนี้ ถ้าเราแผ่ความสุขของเราให้กว้างเต็มห้อง ทุกคนก็จะพลอยได้รับ บรรยากาศของความสุข