Page 147 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 147

129
พระอาจารย์ : ขณะที่มีความคิดเกิดขึ้นมาในขณะที่เรานั่ง อาจารย์ รู้สึกว่าพูดไปเยอะแล้วเหมือนกันนะ แต่ลองสังเกตดูนะ เวลาความคิดเกิด ขึ้นขณะที่เรานั่งสมาธิ การกาหนดรู้ความคิดจะมีอยู่ ๒ อย่าง อยู่ที่เจตนา ของเรา เราจะกาหนดรู้แล้วก็ปล่อย รู้แล้วก็ปล่อยก็ได้ แต่ถ้าปล่อยไปแล้ว ความคิดนั้นจบหรือเปล่า ? หรือรู้แล้วก็ปล่อย รู้แล้วก็ปล่อย แล้วเขาก็มา ใหม่เรื่อย ๆ ? อันนั้นก็จะไม่เห็นอาการดับของเขา
แต่จะให้ชัด รู้ว่าความคิดเข้ามา ให้สังเกต ความคิดที่เข้ามานั้น เกิดขึ้นแล้วดับอย่างไร ? เห็นอาการเกิดดับชัดเมื่อไหร่ ก็จะไม่มีเศษอารมณ์ จะไม่ตกค้างอยู่ในใจของเรา แต่ถ้าเรารู้แล้วปล่อย รู้แล้วปล่อย บางครั้งก็ จะมีเศษอารมณ์ แต่ถ้าปล่อยได้ ถามว่า ผิดไหม ? ไม่ผิด ถ้าปล่อยได้ก็ดี แต่จะให้ดียิ่งขึ้น เห็นชัดว่าความคิดนี้หมดเกลี้ยงจริง ๆ จากใจของเรา แล้ว พอเขาเกิดใหม่ รู้ว่าเป็นความคิดใหม่ แล้วก็ดับไป ก็เกลี้ยงจากใจเราจริง ๆ ตรงนั้นจะไม่มีเศษอารมณ์ ให้สังเกตอย่างนั้น
โยคี : ถ้านั่งสมาธิแล้วจิตออกไปข้างนอก จะเรียกกลับมายังร่างของ เราได้อย่างไรเจ้าคะ ?
พระอาจารย์ : พอลืมตาปุ๊บก็มาถึงตัวทันที พอได้ยินเสียง จิตก็วิ่ง กลับมาหาตัวทันทีเลย ที่จริงที่เรารู้สึกว่าจิตออกนอกร่างนี่ พอเราสงบปุ๊บ มัน วุบไปที่ไหนสักแห่งหนึ่ง พอเรารู้สึกตัวปุ๊บ เขาก็กลับแล้ว เมื่อไหร่ที่เรา “รู้สึก ตัว” แสดงว่าจิตกลับถึงตัวเรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้น พอเรารู้สึกขึ้นมา ไม่ แน่ใจว่าเราอยู่ที่ไหน ขอให้นิ่ง แล้วค่อย ๆ กลับมาสังเกตดู พอสังเกตปุ๊บ มันก็จะมาอยู่ที่ตัวแล้ว
การแยกรูปนาม เห็นจิตตัวเองออกจากกาย เราเจตนาให้จิตอยู่ข้าง นอกตัว อยู่ในที่ว่าง ๆ กับขณะที่นั่งสงบ ๆ แล้วจิตมันหลุดออกไปเองโดย ที่เราไม่มีเจตนา เหมือนเรานั่ง ๆ แล้วคิดถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แล้วจิตก็แวบไป แล้วเรารู้สึกว่าเหมือนเราหลุดไปอยู่ที่นั่น แล้วรู้สึกตกใจว่าตัวเองไปอยู่ตรง


































































































   145   146   147   148   149