Page 150 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 150
132
อารมณ์หนึ่งที่ชัดที่สุดก่อน ถ้าพองยุบชัด ให้ตามรู้อาการพองยุบก่อน พออาการพองยุบน้อยลง เบาลง หรือหมดไปแล้ว ความปวดชัดขึ้นมา ค่อย ไปรู้ความปวดต่อ พอความปวดเริ่มเบาลง ความคิดมากขึ้น ก็ไปรู้ความคิด ต่อ นี่เขาเรียก “เลือกทีละอารมณ์”
ทาไมต้องเลือกทีละอารมณ์ ? เพราะการเลือกทีละอารมณ์จะทาให้ จิตเราตั้งมั่น ไม่ซัดส่าย ไม่วอกแวก แล้วสมาธิจะดี สติก็จะดี แต่ถ้าเราวิ่ง ไปวิ่งมาสลับกัน ไปพองยุบบ้าง ไปความปวดบ้าง ไปความคิดบ้าง ตรงนั้น สมาธิจะไม่พอ เมื่อสมาธิไม่พอ เราก็จะเริ่มกระสับกระส่ายวุ่นวายแล้ว จะ ปฏิบัติต่อลาบาก เพราะฉะนั้น ให้นิ่ง แล้วเลือกอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งที่ ชัดที่สุดในความรู้สึกของเรา
โยคี : เมื่ออยู่กับลมหายใจเข้าออกจนเกิดเวทนาที่หัวเข่าและท่อนขา หนูก็ตามรู้ตามดูเวทนา จนเวทนานั้นหายไป ความรู้สึกที่ดูนั้นเหมือนหมอก หนาแล้วก็จางไป แต่ไม่นานเวทนาก็กลับมาใหม่ อยากทราบว่าทุกครั้งที่นั่ง หรือเดิน เวทนาจะเกิดขึ้นเสมอใช่ไหมเจ้าคะ ?
พระอาจารย์ : ไม่แน่นอนนะ เวทนาจะเกิดขึ้นไม่แน่นอน บางช่วง บัลลังก์นี้เป็นแบบนี้ พอบัลลังก์ต่อไปเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นแล้ว อาจจะไม่ปวด เหมือนเดิม อาจกลายเป็นว่าแค่เดินแล้วเบาไปก็มี อาการเหล่านี้เขาอาศัย เหตุปัจจัยเกิด ก็คืออาศัยลักษณะของสติและสมาธิของเรา ว่าขณะนั้น อาการอะไรจะปรากฏขึ้นมา
โยคี : แล้วเวทนานั้นจะผ่านไปได้ไหมเจ้าคะ ?
พระอาจารย์ : ผ่านได้ ไม่ผ่านด้วยการลุกก็ผ่านด้วยการกาหนด นั่นแหละ ไม่ต้องกังวล บางทีมีเวทนาเกิดขึ้น เราจะเอาให้ผ่าน เอาให้ชนะ เวทนา แทนที่จะรู้ว่า “ฉันจะรู้ว่าเวทนานั้นเกิดดับอย่างไร” เห็นไหม เจตนา ก็ต่างกัน! เราจะสู้ จะเอาเวทนาให้หายไปเลย นั่งต่อไปจะได้ไม่เจออีก อย่า ไปคิดอย่างนั้น ถ้าคิดอย่างนั้นจะผิดหวัง เพราะสภาวะก็ยังเกิดขึ้น