Page 165 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 165
147
บางอย่างที่เราไม่เคยฟัง หรือเคยฟังแล้วแต่ไม่เข้าใจ ก็ได้เข้าใจขึ้น ไม่ใช่ว่า ต้องได้ความว่างอย่างเดียวถึงจะเรียกว่าได้
ลองทบทวนดูสิ ลองพิจารณาดู บางครั้งอารมณ์ที่ไม่ดีที่เกิดขึ้น และเราได้เห็นชัด ๆ ว่าอารมณ์ที่ไม่ดีที่เกิดขึ้นนั้น เป็นผลให้เกิดทุกข์กับเรา อย่างไร เป็นสิ่งที่เราควรทาให้เกิดขึ้นบ่อย ๆ หรือควรจะหาวิธีที่จะแก้ไข ละความทุกข์ให้เร็ว ? นั่นแหละคือสิ่งที่เราได้รู้! ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับชีวิต ของเรา ที่เรากาลังมาปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นทางกายทางใจ ที่เรามาพิจารณาราย ละเอียดตรงนี้ นี่แหละสิ่งที่จะเกิดขึ้น
และการที่เรามาฝึกพิจารณารายละเอียดของสภาวธรรมที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นขณะเดินจงกรม นั่งสมาธิ หรือในอิริยาบถย่อย อย่างที่พวกเรา ปิดวาจากัน ปิดวาจาแต่ไม่ปิดใจ วาจาปิดสนิทแต่ใจฟุ้ง ไม่ได้พูด ไม่ได้ ระบาย ใจก็คิดไปต่าง ๆ นานา บางคนก็รู้สึกว่าเอาไม่อยู่ เดี๋ยวคิดไปโน่น คิดไปนี่ บางคนก็รู้สึกว่าลาบาก เพราะฉะนั้น การที่เรามาเก็บอารมณ์หรือ มาปฏิบัติในลักษณะนี้ ถ้าสังเกตดี ๆ เราจะเห็นอะไรหลายอย่างเลยในตัว ของเราว่าเป็นอย่างไร ทาไมเราอยู่ทางโลกแล้วเราไม่มีสติ ทาไมเราต้องวุ่นวาย
ที่เราอยู่ข้างนอกแล้วไม่เห็น เพราะมีอารมณ์ให้รับรู้เยอะแยะมาก มาย แล้วจิตของเราก็ไหลตามเขาไป แต่พอมาสงบสารวม จึงเห็นว่าจริง ๆ แล้ว จิตของตนเองเป็นอย่างไร... ไม่ได้สบาย ไม่ได้สงบเลย! แต่ที่สงบสบาย เพราะว่าเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ จากสิ่งหนึ่งไปสู่อีกสิ่งหนึ่ง จากอารมณ์หนึ่งไปสู่ อีกอารมณ์หนึ่ง หมายถึงว่าเราไหลตามอารมณ์ เขาเรียก “เพลิดเพลินอยู่ กับอารมณ์” เพียงแต่อารมณ์ที่เราเพลิดเพลินนั้น เป็นอารมณ์ประเภทไหน ? เป็นอกุศลหรือกุศล เท่านั้นเอง!
เพราะฉะนั้น การที่เรามาพิจารณาอาการของรูปนาม สังเกตราย ละเอียดของเขามากขึ้น ที่จริงแล้วมีผลต่อตัวเรา เราฝึกสังเกตรายละเอียด ของทุก ๆ อารมณ์ที่เกิดขึ้นมากเท่าไหร่ ต่อไปอะไรก็ตามที่เข้ามากระทบ