Page 205 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 205

187
เกิดขึ้นมา ที่ชัดที่สุดในขณะนั้น ต่อจากอาการเกิดดับที่รูป สังเกตดูว่า เสียง ที่ปรากฏขึ้นมา เขาเกิดดับในลักษณะอย่างไร ? เขาอาจจะชัดอยู่ในความรู้สึก ชัดอยู่ในใจเราว่าเสียงที่ดังเข้ามา เขาเกิดดับเป็นขณะ ๆ หรือวุบแล้วกระจาย หรือพุ่งเข้ามาเป็นเส้น แล้วก็ขาดไป หายไป ? นั่นรู้ลักษณะอาการเกิดดับของ เสียงที่เกิดขึ้น แล้วมุ่งเน้นไปดูว่า ขณะต่อไป ต่อไป อาการเกิดดับของเสียง เปลี่ยนไปอย่างไร ? ต่างจากเดิมอย่างไร ? อันนี้คือการเจาะสภาวะ มุ่งไปรู้ อาการเกิดดับของทุก ๆ อารมณ์ที่เกิดขึ้น
ขณะที่มีเวทนาปรากฏขึ้นมาก็เช่นเดียวกัน การเจาะสภาวะในการ กาหนดเวทนาก็มีเป้าหมายแบบเดียวกัน มีเจตนาเข้าไปรู้อาการเกิดดับของ เวทนาว่าเขาเกิดดับอย่างไร ใหม่ ๆ เมื่อมีเวทนาเกิดขึ้น ให้นิ่ง แล้วสังเกตดู ว่า เวทนาที่ปรากฏนั้นมีลักษณะอย่างไร ? เวทนาที่ปรากฏขึ้นมา มีลักษณะ เป็นกลุ่มก้อน เป็นจุด เป็นแท่ง เป็นเส้น เป็นแผ่น หรือแค่มีอาการผุดขึ้นมา แล้วดับไป แวบขึ้นมาหาย แวบหาย ? ถ้าเป็นกลุ่มก้อน ในกลุ่มก้อนนั้น เมื่อ มีสติเข้าไปรู้ เขาเปลี่ยนอย่างไร ? จางไป บางไป เบาไป หรือว่าเปลี่ยนไปใน ลักษณะอย่างไร ? เป็นเส้นขึ้นมา เส้นของเวทนาที่เป็นเส้นเขาดับอย่างไร ? ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างแบบไหนก็ตาม หรือไม่มีรูปร่างก็ตาม
ขณะที่ไม่มีรูปร่าง เรารู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลง หรือเกิดดับไหม ? ได้เช่นกัน เพราะเป็นอารมณ์ที่ชัดในความรู้สึกเรา เขาเรียกว่า “ชัดในใจเรา” มันมีอาการแปลบแล้วดับ ไม่มีรูปร่าง แต่รู้สึกแปลบดับ ปุ๊บดับ ปุ๊บดับ นั่น คือให้มีเจตนาเข้าไปรู้อาการเกิดดับของเขาเป็นสาคัญ และสิ่งสาคัญอย่างหนึ่ง การกาหนดรู้เวทนา ให้กาหนดรู้อย่างไม่มีตัวตน ไม่มีเราไม่มีเขา เอาความ รู้สึกเข้าไปรู้อาการที่เกิดขึ้นอยู่ และถ้าใครเพิกบัญญัติได้ก็จะดี
อย่างเช่น ปวดบริเวณหัวเข่า ปกติแล้วจะรู้สึกว่ามีรูปร่างของหัวเข่า พอเอาความรสู้ กึ วา่ เปน็ หวั เขา่ ออก ใหเ้ หลอื แตอ่ าการของเวทนาทกี่ า ลงั ปรากฏ อยู่ในที่ว่าง ๆ เขาเรียก “เพิกบัญญัติ” เพิกความเป็นรูปร่าง เอาความรู้สึกว่า


































































































   203   204   205   206   207