Page 233 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 233

215
นามจะอยู่ที่เดียวกัน ถ้าเห็นอาการเกิดดับตรงนั้นชัด เราจะรู้สึกเองว่า เมื่อ อาการนั้นดับ ความรู้สึกก็ดับหายไปด้วย เพราะตัวนามคือตัวจิตที่เข้าไปรู้ เพราะฉะนั้น เมื่ออยู่ที่เดียวกันแล้ว ไม่ต้องมานั่งแยกอีก แต่ถ้าเรานิ่งแล้วดู ก็จะเห็นว่าเขาเป็นส่วนเดียวกันหรือเป็นคนละส่วนกัน
อีกอย่างหนึ่ง สาหรับนักปฏิบัติเวลามี “ความสงสัย” ในสภาวะบาง อย่างเกิดขึ้น เช่น สงสัยว่า ทาถูกหรือเปล่า ? สงสัยว่า ใช่หรือเปล่าอาการ แบบนี้ ? ถามตัวเองไหมว่า คาว่า “ใช่” คืออะไร ? ที่บอกว่าทาถูกหรือเปล่า... ถูกแบบไหน ? อะไรที่เรียกว่า “ถูก” ? อันนี้นิดหนึ่ง เพราะตรงนี้ทาให้โยคี กังวล เราย้อนกลับมาดูว่าการเจริญวิปัสสนา หน้าที่ของนักปฏิบัติ คือ เข้าไป รู้ว่าอาการนั้นมีการเปลี่ยนแปลง เกิดดับเป็นไปในลักษณะอย่างไร
เพราะฉะนนั้ เวลาโยคเีขา้ไปกาหนดรู้ทาไมเขาเปลยี่นแบบนี้?อยา่งนี้ เป็นไปได้ด้วยหรือ ? ถูกหรือเปล่า ? ใช่หรือเปล่า ? จริง ๆ ไม่น่าจะมีคาถาม แบบนี้ เพราะเราเข้าไปรู้การเปลี่ยนแปลง ไม่ผิดหรอก! เห็นเขาเปลี่ยนไป อย่างไร เปลี่ยนเร็ว เปลี่ยนช้า เดี๋ยวสว่าง เดี๋ยวมืด เดี๋ยวพุ่งเข้ามาหาตัว เดี๋ยวพุ่งออกไป... สภาวะเขาก็เป็นไปตามเหตุปัจจัย ตามกาลังของสติและ สมาธิของเรา
และอีกอย่างหนึ่งก็คือว่า เวลากาหนดไปสักพัก มีอาการแปลก ๆ เกิด ขึ้น อาการแปลก ๆ ในที่นี้หมายถึงว่าอาการที่เราไม่เคยเห็น ที่มันแปลกไป ต่างไป... พอเกิดขึ้นมาแล้ว เอ๊ะ! อันนี้เกิดได้ด้วยหรือ ? อันนี้ใช่หรือเปล่า ? ก็เขาเกิดแล้ว ทาไมถึงถามว่าเกิดได้ด้วยหรือ ? ว่างแบบนี้ใช่หรือเปล่า ? เขาว่างแล้ว ก็ใช่แหละ! ความว่างอันนั้นแหละ! แต่ความว่างก็มีหลายระดับ อาการก็มีหลายอย่าง เพียงแต่ให้รู้ชัดว่า อ๋อ! เป็นอย่างนั้นจริง ๆ เออ! แบบ นี้ก็มี
ตรงที่เราเห็นสภาวะอาการของรูปนามของเรา ที่เราไม่เคยเห็นก็เกิด ขึ้นได้ มีการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ มากมาย ที่เราเคยคิดว่า อาการเกิดดับมัน


































































































   231   232   233   234   235