Page 234 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 234
216
น่าจะมีแค่มีแล้วหมด แต่ลักษณะอาการเขาเป็นไปต่าง ๆ นานา พุ่งซ้ายบ้าง ขวาบ้าง จากด้านข้างบ้าง ขึ้นบนบ้าง ลงล่างบ้าง ถอยหลังบ้าง พุ่งเข้ามาหา ตัวบ้าง นี่คือความหลากหลายของอารมณ์ นี่คือความไม่แน่นอนของอารมณ์ ไม่ใช่เป็นไปตามที่เราคิดหรือคาดหวัง เพราะฉะนั้น อะไรก็ตามที่อยู่รอบตัว เรา ที่เราคิดว่าไม่น่าจะเกิด ไม่น่าจะมี เขาก็เกิดขึ้นได้ เพราะไม่ได้ขึ้นอยู่กับ “ความน่าจะ” หรือไม่ แต่ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยในแต่ละขณะนั้น ๆ ว่าเป็นไป ในลักษณะอย่างไร
เหมือนเรานั่งอยู่ท่ามกลางแอร์เย็น ๆ อยู่ ๆ ทาไมร้อนเหงื่อแตก... เป็นไปได้อย่างไร! ไม่น่าเป็นไปได้! ไม่ใช่ไม่น่าเป็นไปได้ แต่เขาเกิดขึ้น แล้ว! ไม่ใช่ไม่น่าเป็นไปได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้นเพราะเหตุอะไรต่างหาก ท่ามกลางความเย็นของแอร์ที่คนอื่นรู้สึกเย็น แต่เรากลับรู้สึกร้อน เพราะ อะไร ? มันมีเหตุปัจจัยหลายอย่าง บางครั้งถ้าในร่างกายเราไม่สมดุลกัน ธาตุ ไฟก็ชัดขึ้นมา ความร้อนก็ปรากฏขึ้นมาได้ เพราะฉะนั้น การกาหนดอารมณ์ จึงต้องพร้อมที่จะเข้าไปรู้ว่าเขาเปลี่ยนอย่างไร เกิดดับอย่างไร อันนี้พูดถึง อารมณ์ที่ปรากฏอาการเกิดดับทั้งหมด
สิ่งที่เราต้องสังเกตอีกอย่างหนึ่งก็คือ “สภาพจิต” ของเรา อันนี้สาคัญ บางทีเราเห็นแต่อาการเกิดดับของรูปอย่างเดียว ดูแต่ว่าพองยุบดับอย่างนี้ เสียงเกิดดับแบบนี้ ความคิดเกิดดับแบบนี้ อาการเต้นของหัวใจเกิดดับแบบนี้ แต่ไม่ได้สังเกตสภาพจิตใจของตัวเองว่าเป็นไปอย่างไร บางครั้งอาการที่ชัด ที่สุดก็คือสภาพจิตเรา ชัดกว่าอาการเกิดดับอย่างอื่น อย่างเช่น บางครั้งเวลา เรานั่งกาหนดไปแล้วทุกอย่างหายหมด อาการของรูปไม่มี เวทนาไม่มี ตัว ความคิดไม่มี เหลืออะไร ? เหลือแต่ตัวรู้กับสภาพจิตเรา รู้สึกโล่ง รู้สึกสงบ รู้สึกมั่นคง... อันนี้คือตัวสภาพจิต เขาชัดกว่าอย่างอื่น
เพราะฉะนั้น ถ้าเราจะกาหนดต่อไป ดูอะไร ? ถ้ารู้สึกโล่ง ให้เข้าไป รู้ความรู้สึกที่โล่ง นั่นคือดูสภาพจิตที่โล่ง ถ้ารู้สึกสงบ เข้าไปดูจิตที่สงบอีก