Page 270 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 270
252
ถึงบุญก็นึกถึงได้ บุญก็จะทาให้ความสุขเกิดขึ้นมาได้ ความอิ่มใจก็เกิดได้ บางคนย้อนไปนึกถึงบุญที่ทาแล้วประทับใจเมื่อสมัยเด็ก ๆ โน้น บุญตอนนี้ นึกไม่ออกนะ ขณะนี้ทาบุญใหญ่อยู่ เขาเรียก “ภาวนามัย” บุญสาเร็จด้วยการ เจริญภาวนา เป็นบุญที่พิเศษ เพราะอะไร ? เพราะเป็นการขัดเกลาจิตใจของ เรา เป็นไปเพื่อการดับทุกข์ เพื่อความผ่องใสของจิตเรา
สังเกต เมื่อไหร่ก็ตามที่เราปฏิบัติแล้ว รู้สึกว่าจิตเราใสขึ้น สว่างขึ้น สะอาดขึ้น บริสุทธิ์ขึ้น จิตจะเบิกบานและผ่องใสขึ้นมาเอง รู้สึกอิ่มใจขึ้น มาเอง นั่นแหละเป็นบุญอย่างหนึ่ง เป็นบุญที่พิเศษเพราะไม่ประกอบด้วย ตัวตน เป็นบุญที่บริสุทธิ์ เวลาทาบุญอย่างอื่น เรายังรู้สึกว่า “เรา” เป็นคนทา แต่ตรงนี้เป็นบุญที่ไม่ประกอบด้วยอกุศล เป็นจิตที่บริสุทธิ์ เพราะฉะนั้น จึง เป็นมหากุศล น้อมเข้ามาใส่ตัวบ่อย ๆ เพิ่มพลังให้ตัวเอง
ลองอีกนิดหนึ่ง เวลาเราไปทาบุญ เวลาเรากราบพระสวดมนต์ เรา น้อมระลึกถึงพระพุทธเจ้า แล้วน้อมถึงอานุภาพของพระพุทธเจ้าด้วย ลอง ดู รู้สึกเป็นอย่างไร ? ลองหลับตาดู ทาใจให้ว่าง ๆ แล้วน้อมขอพลานุภาพ จากพระพุทธเจ้า น้อมเข้ามาที่ตัวเรา น้อมเข้ามาที่ใจ ทาให้จิตใจเรารู้สึกเป็น อย่างไร ? จิตที่ “น้อม” ประกอบด้วยความเคารพ ด้วยความศรัทธา น้อม เข้ามาใส่ตัวเรา ลองดูว่า รู้สึกเป็นอย่างไร ? (โยคีท่านหนึ่งกราบเรียนว่า รู้สึก ซาบซึ้ง) รู้สึกเป็นอย่างไร ? (โยคีอีกท่านหนึ่งกราบเรียนว่า รู้สึกอิ่ม)
สังเกตไหม ขณะที่เราน้อมถึงพระพุทธเจ้าด้วยจิตที่ว่าง กับเรากราบ พระธรรมดา ต่างกันอย่างไร ? สังเกต ใช่ไหม ? รู้สึกไหมว่าเราอยู่ใกล้หรือ อยู่ไกล ? อยู่ใกล้ ใช่ไหม ? เราจะได้กราบพระพุทธเจ้าถูกสักทีหนึ่ง ไม่ใช่ กราบแค่พระพุทธรูปที่เป็นสัญลักษณ์ เพราะฉะนั้น กราบด้วยใจ แล้วน้อม จริง ๆ ไม่ใช่สักแต่ว่ากราบตัวแทน แต่กราบด้วย “ความรู้สึก” เราน้อมใจไป เราจะรู้สึกได้เลยว่าพระองค์อยู่ตรงไหนก็ตาม เราจะรู้สึกเหมือนอยู่ใกล้ ๆ พระองค์