Page 271 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 271

253
เพราะฉะนั้น ถ้าใครทาอย่างนี้ คนนั้นจะไม่โดดเดี่ยว เรามีธรรมะเป็น เพื่อน มีพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ เราจะได้มีพระพุทธเจ้า เป็นที่พึ่งจริง ๆ เราจะไม่รู้สึกว่าวังเวงเงียบเหงา แต่จะรู้สึกว่าระลึกถึงเมื่อไหร่ เรามีความอุ่นใจเมื่อนั้น รู้สึกสบายใจที่มีพระองค์เป็นที่พึ่ง เวลาสวดพุทธัง สะระณัง คัจฉามิ พระพุทธเจ้าอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ ไกลกันมากเลยตั้ง ๒๐๐๐ กว่าปี ไม่ใช่เป็นกิโลนะ เป็นปี หลายรอบหลายกิโลแล้ว....
เพราะฉะนั้น ถ้าเราน้อมด้วยจิตที่สงบ ว่าง และด้วยความศรัทธา เราจะรู้สึกได้ด้วยตัวเราเองว่าเรากราบพระพุทธเจ้าจริง ๆ เรารู้สึกได้จริง ๆ แล้วเราก็รู้สึกอยู่ใกล้ นั่นคือ “วิธีกราบ” ฉะนั้น เวลาเราสวดมนต์ก็เหมือน กัน เราจะสวดด้วยความเคารพ ด้วยความเชื่อในพระพุทธเจ้า ในคาสอนของ พระพทุ ธเจา้ สงิ่ ทพี่ ระพทุ ธเจา้ ตรสั คอื ความจรงิ ทงั้ หมด และเปน็ คา สอนทเี่ ปน็ อมตะที่เราปฏิบัติตามได้ตลอด ถึงแม้หลังจากนั้น ๒๐๐๐ กว่าปี
ถ้ามีวิธีปฏิบัติ เราก็พิสูจน์ได้ว่าคาสอนของพระองค์เป็นอย่างนั้น จริง ๆ แต่ถ้าเราไม่รู้วิธีพิสูจน์ ก็ต้องหาต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเราน้อม ถึงพระพุทธเจ้าแบบนี้ จะทาให้ปัญญาเราเกิดได้ง่ายด้วย เมื่อไหร่ก็ตามที่ การปฏิบัติธรรมของเรา รู้สึกว่าไปไม่ถูกแล้วนะ นึกไม่ออกแล้ว นิ่ง ๆ น้อม ถึงพระพุทธเจ้า ระลึกถึงพระพุทธเจ้า เดี๋ยวปัญญาก็เกิด รู้ว่าควรทาอย่างไร
ปัญญาส่วนใหญ่ สาคัญเลยก็คือ เป็นไปเพื่อความดับทุกข์ เวลาเรา ทุกข์ขึ้นมา ไม่มีที่พึ่ง น้อมถึงพระพุทธเจ้า เดี๋ยวเกิดปัญญาแก้ปัญหาเอง ค่อย ๆ แก้ไปทีละเปลาะ ทีละเปลาะ แล้วก็จะหลุดไปเอง อานุภาพของ พระพุทธเจ้านั้นยิ่งใหญ่ ถ้าเราเชื่อมั่นในพระพุทธเจ้า เราก็แก้ไขได้ ไม่ยาก! ไม่เกินความสามารถของเราหรอก เพราะพวกเราทุกคนก็มีปัญญา แต่เปิด ใจให้กว้าง ทาจิตให้ว่าง ๆ พร้อมที่จะรับ พร้อมที่จะรู้ พร้อมที่จะเข้าใจใน สิ่งที่กาลังปรากฏอยู่ แล้วเราก็จะรู้ว่าทางที่จะไปต่อนั้นเป็นอย่างไร สิ่งที่ต้อง ทานั้นเป็นอย่างไร


































































































   269   270   271   272   273