Page 273 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 273

255
จะติดอยู่กับความสุข ส่วนใหญ่แสวงหาความสุข แต่ติดกับความทุกข์มาก กว่าความสุข ขนาดเข้ามาปฏิบัติ ความทุกข์ยังติดตัวมาด้วยเลย แต่บางคน ก็สบายใจมา พร้อมที่จะทา บางอย่างอาจารย์พูดเล่น แต่ที่บอกว่าไม่ให้ติด ไม่ต้องกลัวนี่ พูดจริงนะ! ที่เขาบอกว่า “กลัวติดสุข” ก็คือ อย่าหลงกับ ความสุขนะ ให้มีสติพิจารณารู้ ความสุขไม่เที่ยง ถ้ามันเปลี่ยนก็ต้องเข้าใจ ว่าเปลี่ยน ไม่ต้องไปเครียดว่า แย่แล้ว! ความสุขฉันหายไปแล้ว แล้วก็ ขวนขวายหาอย่างเดียว ให้รู้ว่าเดี๋ยวเขาก็เปลี่ยน
พอมีความสุขเกิดขึ้นมาก็ให้รู้ว่าสุข ถ้าเราน้อมระลึกเอามาใช้ได้ด้วย ก็จะเป็นสิ่งดี! ไม่อย่างนั้นจะมีสวรรค์สมบัติทาไม ใช่ไหม ? นิพพานสมบัติ มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ จิตที่อยู่บนสวรรค์เป็นอย่างไร ? เราก็ทาจิต ของเราให้มีความสุขเหมือนอยู่บนสวรรค์ตั้งแต่ตอนนี้สิ ลองดูสิ เมื่อโยมนั่ง อยู่ในที่ว่าง ๆ นั่งอยู่ในความสุข หลับตาแล้วลองดูว่า นั่งอยู่ในความสุข มี ความสุขรองรับ รู้สึกไหมว่า เรานั่งอยู่บนโลกนี้หรือนั่งอยู่ที่ไหน ? หรือนั่ง อยู่อีกมิติหนึ่ง ? ไม่เกี่ยวกับสัญญานะ เกี่ยวกับความรู้สึกจริง ๆ รู้สึกเป็น อย่างไร ? (โยคีกราบเรียนว่า เหมือนอยู่บนสวรรค์)
มีพราหมณ์คนหนึ่งถามพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าหน้าตาอิ่มเอิบ ผ่องใสจัง แสดงว่าพระองค์คงมีที่นั่งอันสูงใหญ่ อันวิจิตรงดงาม พระองค์ บอกว่า พระองค์จะประทับที่ไหนก็ตาม พระองค์ก็จะมีบัลลังก์ทิพย์ เห็น ไหม เหมือนที่นั่งอันเป็นทิพย์ ไม่ได้นั่งบนเบาะ ไม่ได้นั่งบนฟาง ไม่ได้นั่งบน บัลลังก์อันวิจิตร แต่เพราะจิตที่วิจิตร จิตที่บริสุทธิ์ จิตที่สงบ เราก็จะนั่งอยู่ บนความสงบ นั่งที่ไหนก็สบาย ไม่วุ่นวาย ไม่หนัก อันนั้นแหละ นั่งที่ไหนก็ นั่งบนที่นั่งอันวิจิตร
ถ้าจิตเราเป็นแบบนี้ เราจะรู้สึกว่าเรานั่งอยู่บนความว่าง นั่งอยู่ที่เบา ๆ หรือนั่งอยู่บนความสุข ตรงนี้เรารู้สึกได้ด้วยจิตของเราเอง ถ้ามองด้วยตา เราก็จะเห็นว่าเรานั่งอยู่บนพื้น แต่ถ้าด้วยความรู้สึกเรา ก็จะรู้สึกว่าเรานั่งอยู่


































































































   271   272   273   274   275