Page 287 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 287
269
อีกจุดหนึ่ง พอถึงความว่าง กาหนดอะไรไม่ได้เลย หาอะไรไม่เจอ แต่มีตัวความรู้สึกดวงเดียวที่ทาหน้าที่รู้ว่าว่างอยู่ ตรงนี้แหละ ถ้าเป็นอย่างนั้น จริง ๆ ไม่ต้องไปหาอะไร ดูตัวเขาเอง ดูความรู้สึกเองที่รู้ว่าว่าง ตัวความ รู้สึกที่รู้ว่าว่าง พอรู้ปุ๊บ เขารู้ว่าว่าง ทาหน้าที่รู้ แล้วเขาดับไหม ? รู้แล้วก็ต้อง หายไป แล้วต้องรู้ใหม่หรือเปล่า ? รู้อาการเกิดดับของความรู้สึก หรือจิต ดวงใหม่ที่เกิดขึ้น อันนี้ต้องใช้ความสังเกต หรือต้องนิ่งมากขึ้น ต้องสังเกต มากขึ้น เพียงแต่ว่าไม่ต้องบังคับ ให้สังเกตแล้วก็จะเห็น พอเห็นปุ๊บ พอเรา ไปรู้ ก็จะเห็นว่าเขาเปลี่ยนยังไง เกิดดับยังไง ไม่ใช่ทาให้เกิดขึ้น แต่สังเกตดู สิ่งที่เขาเป็นอยู่ ที่เขามีอยู่แล้ว เพราะธรรมชาติของจิต เกิดขึ้น ทาหน้าที่ รับรู้ แล้วก็ดับไป แล้วก็เกิดขึ้นใหม่ รู้ แล้วก็ดับไป
เขาบอกว่าจิตเกิดทีละดวง ก็คือเกิด รับรู้ขึ้นมา แล้วดับไป เพียงแต่ ว่าความต่อเนื่องของเขาเท่านั้นเอง จึงเหมือนกับเรารู้สิ่งหนึ่งอยู่ตลอดเวลา หรืออยู่นาน เหมือนแสงไฟเนี่ย ที่เรารู้สึกสว่างตลอด เพราะความต่อเนื่อง ของเขา แต่ถ้าเราดูดี ๆ ก็จะมีอาการแว้บ ๆ ๆ สังเกตไหมเวลาทีวีไม่มีภาพ หรือภาพล้ม เราจะเห็นได้ว่าอันนั้นเป็นของหยาบ พอมีภาพขึ้นมา อาการ แว้บ ๆ ก็หายไป แต่ในขณะที่เขาแว้บ ๆ ภาพ แสงสว่างเขาก็ยังสว่างต่อเนื่อง แต่ว่าเกิดดับตลอดเวลา จิตของเราก็เหมือนกัน มีการเกิดดับต่อเนื่อง ตลอดเวลา
เพราะการเห็นการเกิดดับของจิตนี่แหละ เมื่อไหร่ที่เราเห็นอาการ เกิดดับของจิตอย่างต่อเนื่อง ความรู้สึกหรือว่าตัวเรา ความยึดมั่นถือมั่นใน อารมณ์เหล่านั้นก็จะลดลงด้วย เพราะว่าแม้แต่จิตเองก็ยังดับ ไม่มั่นคง เขา จะปล่อยเองโดยอัตโนมัติ โดยที่เราไม่ต้องพยายามว่า ฉันจะวาง ฉันจะ ปล่อย ตรงนี้เป็นบทพิสูจน์ว่า เมื่อไหร่ที่เราเห็นอาการเกิดดับของรูปนามนี้ จิตเราจะเบาขึ้น โล่งขึ้น นั่นคือเขาปล่อยโดยอัตโนมัติ โดยที่เราไม่ต้อง พยายาม ฉันจะปล่อยนะ ฉันจะไม่เอา ฉันจะไม่ยึด แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ไม่เห็น