Page 292 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 292
274
รู้สึกเข้าไปกาหนดรู้นั่นเอง การเอาจิตเราไปดับ ไปกาหนดรู้ นั่นน่ะคือมรรค นิโรธก็เกิดแล้ว
สมุทัย เหตุให้เกิดทุกข์อยู่ตรงไหน ? เหตุให้เกิดทุกข์ ก็คือความมี ตัวตน ทิฏฐิของเรา ความเข้าใจผิด หรือเรียกว่าอวิชชา เห็นแล้วก็รู้สึกอัน นี้เป็นของเรา เพราะฉะนั้นถ้าดับความรู้สึกว่าเป็นเราปุ๊บ แปลกนะ พอดับ แค่ตัวตน ดับแค่เหตุ เขาเรียกดับแค่สมุทัย ดับความรู้สึกว่าเป็นเรา ความ ทุกข์ก็หายแล้ว เพราะขณะที่เราเข้าไปดับความรู้สึกว่าเป็นเรา มรรคก็เกิด แล้ว ทุกข์รู้แล้ว ไปดับเหตุ นิโรธก็เกิด ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค เกิดทีเดียว อันนั้นเขาเรียกว่า มรรค ๘ ที่เราปฏิบัติอยู่ มรรค ๘ ที่จะทาให้เราดับทุกข์ ได้ทันทีก็คือ มรรคสมังคี ศีล สมาธิ ปัญญาที่เกิดในเวลาเดียวกันขณะนั้น ถึงสามารถดับทุกข์ได้ ที่เราทาการงานชอบ เลี้ยงชีพชอบอันนั้น ซึ่งเราก็ทา อยู่แล้ว แต่ว่ามรรคสมังคีที่เกิดขึ้นในขณะที่เราปฏิบัติ หรือมีสติกาหนดรู้ อารมณ์ ดับอารมณ์ เขาเรียกมรรคสมังคี
ทุกครั้งที่เรารู้ตรงนี้ ศีลก็มี สมาธิก็เกิด ปัญญาก็เกิด ตรงนั้นแหละ เขาเรียกมรรคสมังคี ศีล สมาธิ ปัญญา เกิดในเวลาเดียวกัน ในขณะเดียวกัน ตรงนี้ถึงจะดับทุกข์ได้ เห็นไหมขณะเล็ก ขณะที่เรากาหนดรู้อาการเกิดดับ ของรูปนามที่เกิดขึ้นในขณะนั้น ไม่ว่าจะเป็นขณะยืน เดิน นั่ง หรือนอน ตรงนั้นแหละมรรคสมังคีจะเกิดขึ้น ทุกครั้งที่เรามีสติกาหนดรู้อาการเกิด ดับ ศีล สมาธิ ปัญญา เกิดพร้อมกันตลอดเวลา อยู่ที่ว่าตรงไหนชัดกว่า หมายถึงสมาธิกับปัญญานี่จะชัด ศีล ความสงบกายวาจา เกิดขึ้นแน่นอน เมื่อ เรามีสติกาหนดรู้อย่างนั้น วาจาก็เรียบร้อย กายก็เรียบร้อย
เพราะฉะนั้นศีล คือการสารวมกาย วาจา สมาธิ สารวมใจ จิตให้เรา สงบ ปัญญา ก็คือการรู้อาการเกิดดับ เพราะฉะนั้นการกาหนดรู้ขณะนั้น ศีล สมาธิ ปัญญา จึงเกิดขึ้นในขณะเดียวกัน พร้อมกัน แล้วก็สิ่งหนึ่ง ปัญญา ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น ปัญญานี้เกี่ยวกับอะไร ? ผลที่ตามมาคือ เมื่อมีสติ