Page 300 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 300
282
เป็นเราเนี่ยเกิดตลอดเวลาไหม ? ความรู้สึกว่าเป็นคน ? คนเกิดขึ้นชั่วขณะ หนึ่ง ๆ แค่นั้นเอง ไม่ได้เกิดตลอดเวลาหรอก พอมาถามเรา เราเป็นอะไร ? อ๋อ.. เป็นคน เกิดขึ้นตอนนั้นแหละ ใช่ไหม ? เพราะความรู้สึกว่าเป็นคน สัญญาเกิดขึ้นมา จาได้ตรงนี้เขาเรียกว่าเป็นคน ถ้าว่าตามความรู้สึกจริง ๆ เขาบอกว่าเป็นอะไรไหม ? ไม่บอกเลย นี่คือธรรมชาติที่เหมือนกันทั้งหมด ทุกคน เพียงว่าโดยบัญญัติ ที่เราบัญญัติขึ้นโดยสถานะต่าง ๆ ที่เราสมมติ บัญญัติขึ้นมา แล้วเราก็ไปยึดติด จนไม่สามารถที่จะคลายอารมณ์เหล่านี้ ไปได้ เรายึดติดเอาไว้ เราเองเป็นผู้ไม่ยอมปล่อย เขาเรียกว่าปลูกฝัง เลย ปิดบังความจริง
ความจริงที่พระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ รูปนามอันนี้ไม่มีอะไรเป็นของเรา มีความเป็นอนัตตา ว่างเปล่า และไม่มีสาระแก่นสารด้วย ไม่มีแก่นสาร เลย ลองดูรูปนี้ มีอะไรบ้างที่เรายึดได้ ? ไปรู้ตรงไหนก็ว่าง รู้ตรงไหนก็ว่าง เป็นของว่างเปล่าทั้งหมด ไม่มีแก่นสาร แต่เราก็พยายามยึด รูปเป็นที่อาศัย ไม่ใช่สิ่งที่ต้องยึด อาศัยเป็นปัจจัย เป็นที่อาศัย แต่ไม่ใช่ให้ยึด อาศัยเพื่อ อะไร ? อาศัยเพื่อการสร้างกรรม กรรมแล้วแต่ว่าจะเป็นกรรมดี กรรมไม่ ดี ใครมีปัญญา ก็อาศัยรูปนามนี้ทากรรมดีต่อ สร้างสิ่งที่ดี ๆ พัฒนาตัวเอง เพื่อไปสู่ความสิ้นสุดหรือพ้นทุกข์จริง ๆ
แต่บางคนก็อาศัยรูปนามอันนี้ ทาในสิ่งที่จะกลับไปสู่บ้านเดิม มี ครูบาอาจารย์ท่านหนึ่ง ท่านบอกว่าการเกิดเป็นมนุษย์ เหมือนเราขึ้นมาเที่ยว ชั่วขณะหนึ่ง เป็นการเหมือนเราแวะไปเที่ยวในสวนดอกไม้แป๊บหนึ่ง แล้วก็ กลับบ้าน บ้านเดิมอยู่ที่ไหน ? บ้านเดิมก็คือนรกขุมใหญ่ อยู่ที่ใครเกิดมา แล้วจะสร้างกุศลตรงไหนต่อ ถ้าจะสร้าง เกิดมาบนโลกมนุษย์ใช้โอกาสตรงนี้ โอกาสอันดีของเรา เราอายุสั้นมาก ใช้เวลาน้อยนิดเพื่อที่จะแสวงหาสิ่งที่ดี ๆ เป็นปัจจัยให้ชีวิตของเรามุ่งไปข้างหน้าต่อไป เพื่อเป้าหมายจริง ๆ เพื่อที่ สิ้นสุด เพื่อเป้าหมายของชีวิต