Page 301 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 301

283
ถ้าเปรียบเทียบกับเทวดาแล้วนี่ การเป็นมนุษย์เหมือนแวะเที่ยวสวน ประมาณครึ่งชั่วโมงในวันหนึ่งนะ วันหนึ่งเกิดเป็นมนุษย์เหมือนเวลาครึ่ง ชั่วโมงเอง แต่เทวดาเขามีเวลาทั้งวัน เพราะฉะนั้นแสดงว่าอายุของเรา ชีวิต ของเรามันสั้นนิดเดียว ครึ่งชั่วโมงทาอะไรได้บ้าง แต่เราก็อยากทาโน่น ทานี่ เต็มไปหมด จนลืมว่าสิ่งที่เราต้องการจริง ๆ คืออะไร เราอยากแบก อยาก แบก รู้สึกพอลงมาแล้วรู้สึกสบาย เห็นอันนั้นก็อยากได้ เห็นอันนี้อยากได้ อันนั้นก็งาม อันนี้ก็สวยงาม เด็ดไปหมดเลย พอผลสุดท้ายเอาไปไม่ได้ สักอย่าง ดอกไม้เด็ดแล้วมันก็เหี่ยว พอกลับถึงบ้าน อ้าว..เหี่ยวแล้ว
เพราะฉะนั้นเราโชคดี ถึงบอกว่าการเกิดเป็นมนุษย์นี่โชคดี โชคดีที่ ได้เกิดมาเป็นคน อาจารย์ยังบอกว่า คนเราที่เกิดมาเป็นคนด้วยกุศลกรรม ด้วยกรรมดีทั้งนั้นเลย อย่างน้อยต้องมีศีล ๕ ที่ทาให้เกิดมาเป็นมนุษย์ได้ แต่พอเกิดเป็นมนุษย์แล้ว การรักษาความเป็นมนุษย์ของตัวเองเป็นเรื่อง ยาก เพราะศีล ๕ เราผิดอยู่เรื่อย รักษาความเป็นมนุษย์ยากเลย เกิดมาเป็น มนุษย์แล้ว ก็รักษาศีล ๕ ไม่ได้ ไม่ค่อยได้รักษา หรือไม่ใส่ใจ อาจจะเป็น เพราะความไม่รู้ หรือไม่เข้าใจ อันนี้แล้วแต่ แต่สาหรับพวกเราเนี่ยไม่ต้อง ห่วงหรอก ศีล ๕ ไม่ต้องห่วงหรอก ใช่ไหม ? ยังไงก็มีเป็นปกติ แสดงว่ามี ปัญญา เพียงแต่ว่าต่อไปจะเอาศีล ๕ นี้ไปด้วยต่อไหม ? หรือจะให้มากกว่า นั้น ?
ที่จริงศีล ๕ ที่บริสุทธิ์นี่มีอานิสงส์มากนะ ไม่ใช่ว่าต้อง ศีล ๘ ศีล ๑๐ หรือ ศีล ๒๒๗ ศีลอย่างหนึ่งที่เขาเรียกว่า วิรัติศีล หรือ อริยกันตศีล ศีล ๕ นี่แหละเป็นศีลของอริยะ ถ้าเข้าสู่ความเป็นอริยะ อริยะก็ถือศีล ๕ แต่เป็นศีล ๕ ที่บริสุทธิ์ เพราะฉะนั้นนี่ความบริสุทธิ์ของจิตนั่นแหละ เมื่อจิต เราบริสุทธิ์มากขึ้น ศีลก็ตามมาโดยอัตโนมัติ ก็เหมือนที่บอกว่ามรรคสมังคี ศีล สมาธิ ปัญญา คนที่มีจิตไม่อยากทาบาป ไม่แสวงเข้าไปในการทาบาป ศีลก็เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว จิตที่เกาะเกี่ยวอยู่กับกุศลธรรม ตรงนั้น


































































































   299   300   301   302   303