Page 329 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 329

311
เข้าสู่ปรมัตถ์ สภาวะปรมัตถ์ไม่บอกว่าเป็นอะไร มีแต่ลักษณะเกิดขึ้น ตั้ง อยู่ ดับไป จากที่เป็นรูปร่าง จากที่รู้ว่าอยู่ที่ตัว ก็จะความรู้สึกว่าตัวหายไป รู้แต่ว่าอาการนั้นเกิดอยู่ในที่ว่าง ๆ และมีการเกิดดับตลอดเวลา บัญญัติ หมายถึงว่าความเป็นกลุ่มก้อน
ปรมัตถ์ไม่มีรูปร่าง แต่รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลง เขาเรียกอาการ พระไตรลักษณ์ การรู้อย่างนั้นจิตจะไม่มีตัว การที่เรามีเจตนาไปรู้อาการ เกิดดับ จิตจะไม่มีความชอบหรือไม่ชอบ มีจิตที่มุ่งที่จะไปรู้อาการเกิดดับ เท่านั้นเอง และขณะที่ตามรู้ไปเรื่อย ๆ จิตก็จะยิ่งมีความผ่องใสขึ้น ต้อง สังเกตนะ ไม่ใช่ดูแต่ว่าดับ ดับ ดับ ดับ ดับ... จิตเป็นยังไงไม่รู้ อันนี้เขา เรียกรู้อย่างเดียว ไม่รู้กว้าง ที่จริงแล้วเราทาอะไรก็ตาม ผลที่ตามมาเราจะ รู้สึกได้ทันที พอเรานิ่งมากขึ้น เราจะจดจ่อกับอาการนั้นมากขึ้น เราจะรู้สึก ว่าจิตเรานิ่งขึ้น นิ่งขึ้น นิ่งขึ้น ขณะที่จิตนิ่งขึ้น ถ้าเราสังเกตดี ๆ ก็เป็นความ นิ่งที่ตื่นตัวมากข้ึน เป็นความนิ่งที่หนักหรือเป็นความนิ่งที่เบา ๆ ใส ๆ แต่ว่า นิ่งขึ้น ตรงนี้สังเกตในลักษณะอย่างนั้น เป็นการกาหนดรู้อารมณ์ เขาเรียกรู้ ทั้งลักษณะอาการเกิดดับ และลักษณะของจิต หรือสภาพจิตของตัวเองว่า เป็นอย่างไร ดังน้ันถ้าเรากาหนดควบคู่อย่างนี้ เราจะเห็นชัดว่าการปฏิบัติ ของเราส่งผลอย่างไร ได้ผลยังไง
เพราะฉะนั้นที่บอกว่า บางคนถามว่ารู้ได้ยังไงว่าการปฏิบัติของเรา ก้าวหน้า การปฏิบัติของเราก้าวหน้าขึ้น จุดหนึ่งที่รู้ก็คือ หน่ึง.. สภาพจิต เราเปลี่ยนไป เรารู้ได้แน่นอนว่าเราเบาขึ้นไหม ? รู้สึกโล่งขึ้น ? อายุ อารมณ์ สั้นลงไหม ? อย่างเช่นจากที่เคยโกรธประมาณสัก ๒ ชั่วโมง พอเรา ปฏิบัติแล้วเหลือแค่ ๕ นาที แสดงว่าพัฒนาขึ้นแล้วนะ มันดับเร็วขึ้นแสดงว่า ก้าวหน้าขึ้น และอีกอย่างหนึ่งก็คือ.. ความเป็นตัวตนของเราลดลงหรือเปล่า ? ความเป็นตัวตนของเราน้อยลงไหม ? แล้วก็อีกอย่าง.. จิตเรามั่นคงขึ้น สงบมากขึ้น ตรงนี้เรารู้ได้ ตรงนี้เราจะรู้ได้แน่นอน แต่ถ้าจะรู้รายละเอียด


































































































   327   328   329   330   331