Page 331 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 331

313
พูดถึงความก้าวหน้าก็เหมือนกัน สอนอยู่อย่างนี้ บางคน.. “อาจารย์ ทายังไงถึงจะปฏิบัติได้เร็ว ?” ถามว่าปฏิบัติวันหนึ่งครั้งละกี่เวลา “วันละ ๒ เวลา” จะเร็วได้ยังไง ? วิธีที่สอนนี่เร็วที่สุดแล้ว ถามว่าเราจะไปทา ต่อเนื่องมากแค่ไหนเท่านั้นเอง ต้องทาต่อเนื่อง การปฏิบัติธรรม ทุกครั้งที่ เราปฏิบัติต้องเอาจริง อย่าทาเล่น ๆ ดูก็ดูจริง ๆ หยุดก็คือหยุด ให้รู้ชัด ถ้าเราทาใจให้ว่าง ก็รู้ชัดว่าตอนนี้ใช้ความว่างทาอะไรต่อ ว่างแล้วทาอะไร กาหนดอะไรต่อ ตรงนี้ให้รู้ชัด
อย่างในชีวิตประจาวันที่เราต้องกาหนดรู้ ๓ อย่างก็คือ หนึ่ง.. สภาพ จิต สอง.. ต้นจิต สาม.. อาการ ตรงนี้ที่จะทาให้การปฏิบัติเราต่อเนื่อง ทั้งวัน เราใช้ได้หมดขณะที่ทา ขณะที่พูด ขณะที่ทางาน เคลื่อนไหวต่าง ๆ สติเราจะอยู่กับอาการเหล่านี้ตลอด เพราะฉะนั้นการปฏิบัติที่มีความ ต่อเนื่องอย่างนี้ พอทาไปนาน ๆ ทาไปนาน ๆ อย่างที่โยมบอกเหมือนไม่ได้ กาหนด แต่มันก็ว่าง ใช่ไหม ? รู้สึกพอไปดูที่จิต ดูเมื่อไหร่มันก็ว่าง ๆ โล่ง ๆ อยู่ เหมือนไม่ได้ตั้งใจกาหนดเลย แต่รู้เมื่อไหร่ก็ว่าง แสดงว่าความ ต่อเนื่องของอารมณ์เรามีมากขึ้น ตรงที่เราพอใจ เราไปสังเกต นั่นคือการ กาหนดรู้ ใส่ใจที่จะดูเมื่อไหร่นั่นคือการกาหนดรู้ การกาหนดรู้ก็คือการ ปฏิบัตินั่นเอง
บางคนนั่ง ๆ อยู่ บางคนมาเล่าไม่ได้ตั้งใจนั่งสมาธิหรอก แค่นั่ง เงียบ ๆ นั่งทาใจให้ว่าง ๆ เงียบ ๆ อาการเกิดดับก็เกิดขึ้นมาเอง ไม่ได้นั่ง สมาธิหรอก จริง ๆ แล้วคือการทาใจให้ว่างแล้วเงียบนั่นคือสมาธิ เพราะ มีสมาธิอาการเกิดดับจึงปรากฏขึ้นมา แต่ปรากฏขึ้นแล้ว นั่นถือเป็นโอกาสดี นะ ที่เราต้องตาม ได้ตามรู้ต่อไปได้ แสดงว่าสติเรามีกาลังในขณะนั้น เพราะ ฉะนั้นอาการเกิดดับถ้าเกิดขึ้นในขณะที่เรานั่งพักผ่อนเอนกาย หลับตา แล้วมี สภาวะอาการเกิดดับเกิดขึ้น ให้ถือว่าเป็นโอกาสดีกาหนดไปได้เลย ให้เจริญ สติไปเลย ดูอาการ ดูสภาวะไปเลย ไม่ใช่ว่าต้องมานั่งตัวตรงอย่างเดียว แล้ว


































































































   329   330   331   332   333