Page 342 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 342
324
อ้ะ.. ลืมตาได้แล้ว ยิ่งให้ความสุข ยิ่งแผ่ยิ่งสุข ยิ่งแผ่ก็ยิ่งมีพลังการ แผ่เมตตา อยากมีความสุขก็จงให้ความสุขกับผู้อื่น สาหรับการให้ความสุข ยิ่งให้เรายิ่งได้นะ ทั้งให้ทั้งได้ในขณะเดียวกัน เป็นทั้งผู้ให้และผู้รับในขณะ เดียวกัน เสร็จแล้วนะ.. มีธุระก็ลุกได้
วันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๒
วันนี้จะฟังอะไรอีก ? พอแต่ละคนเริ่มตั้งใจฟังมากขึ้น อาจารย์ก็ จะหาอะไรมาพูดยากแล้วนะ สังเกตไหมทุกวันเนี่ย พอเรานั่งปุ๊บ วิถีจิตเรา จะพุ่งไปที่จะฟัง อยากรู้ อยากเข้าใจในธรรมะที่เกิดขึ้น แต่วันนี้บางคนนิ่ง ดูซิอาจารย์จะพูดอะไร นิ่ง ตั้งใจฟังอาจารย์จะพูดอะไร พอนิ่งปุ๊บ มันจะ หยุดอยู่กับที่ จิตเราจะหยุดอยู่ตรงนี้ ข้างหน้าเรา พอเรานิ่ง จิตเราหยุดอยู่ ข้างหน้าปุ๊บ ลองดู มันจะนิ่ง ๆ เงียบ ๆ แล้วไม่มีอะไร พอไม่มีอะไร อาจารย์ ก็เลยไม่รู้จะพูดอะไร มันเต็มแล้ว.. เต็ม
ก่อนที่จะฟังธรรมะ เมื่อก่อนเราจะสอน ทุกครั้งที่เข้าไปฟังครูบา อาจารย์สอนธรรมะ ส่วนใหญ่เราไม่ได้เทศน์อย่างนี้หรอก นาน ๆ ทีถึงจะ เข้ามาคุย มาพูดถึงธรรมะ พอฟังปุ๊บก็ต้อง.. เอ้า..ยกจิตขึ้นสู่ความว่าง ต้อง ฟังด้วยจิตที่ว่าง นอกจากฟังด้วยจิตที่ว่างแล้ว ฟังด้วยความรู้สึกพร้อมที่จะ เข้าใจ มีบรรยากาศของความรู้สึกที่พร้อมที่จะเข้าใจ ทาไมถึงเป็นอย่างนั้น ? ทบทวนนะ สองวันสามวันนี้ แต่ละคนรู้สึกปฏิบัติได้ดีกัน มีอย่างหนึ่งสิ่งที่ เห็นชัดก็คือ สภาพจิตดีขึ้น
สภาพจิตดีขึ้นไม่เท่ากับความเข้าใจมากขึ้นนะ สภาพจิตจะดีขึ้น จะเบา จะมีความสุข มีความปลอดโปร่งแค่ไหนก็ตาม ไม่เท่ากับเรารู้วิธีการ ปฏิบัติ เพราะความโล่ง ความโปร่ง ความเบาเกิดขึ้นแล้วเขาก็หายไป แต่ถ้าเรารู้วิธีกาหนดเนี่ย ทุก ๆ อาการที่เกิดขึ้น เราสามารถกาหนดได้ถูก ทุกเวลา และสามารถทาได้ต่อเนื่อง ทาได้ตลอด เพราะสภาวธรรมที่เกิดขึ้น