Page 361 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 361
343
อย่างที่เมื่อเช้าถาม คาพูดออกมาจากที่ไหน ? พอตัวเราว่าง จิตเราว่าง ไม่เชื่อลองดูสิ เอาความว่างเข้าไปในปอด แล้วลองดูเวลาเราพูด คาพูดออก มาจากไหน ? ออกมาจากคอ ? ออกมาจากปาก ? ออกจากที่ว่าง ๆ ? ออกลอย ๆ ? ออกมาจากที่ว่าง ๆ แล้วก็มีจิตที่ว่างทาหน้าที่รู้คาพูดอันนั้น มีจิตที่ว่างทาหน้าที่รู้คาพูดที่ออกมา
ไม่ใช่แค่นั้น ถ้าเราทาอย่างนี้ เราจะรู้ด้วยว่าคาพูดที่จะออกมานั้น เป็นคาพูดประเภทไหน ถ้าเราสังเกตแบบนี้ไปเรื่อย เราจะรู้ว่าคาพูดที่ออก มาเนี่ยประกอบด้วยเจตนาอะไร พูดไปเพื่ออะไร ตรงนี้คือสิ่งที่จะตามมา สติเราก็จะทันอาการของเรามากขึ้น ทันคาพูดของตัวเอง ใครที่ชอบหลุด น๊อตหลวม ก็ต้องลองใช้ดู ลองฝึกดู.. ฝึกดู ยกจิตขึ้น เอาความว่างเนี่ย ไม่ใช่ แค่ในปากนะ ให้กว้างขนาดนี้ แล้วก็อีกอย่างจะให้ดีก็คือ พูดผ่านความว่าง ของตัวเอง
จะให้ดีมากกว่านั้นให้พูดผ่านความสุข การเจริญพลังชีวิต อย่างเช่น เราเติมความสุขได้ เวลาจะเดิน ก็ให้เดินอยู่ในความสุข เวลาคิดก็คิดอยู่ ในความสุข เวลามองมองผ่านความสุข เวลาพูดพูดผ่านความสุข เวลาหยิบ จับก็ให้หยิบจับด้วยความสุข ชีวิตเราก็จะอยู่กับความสุข ตรงนี้.. ทั้งวันเรา จะอยู่กับความสุข แต่ไม่ใช่ติดสุขนะ เป็นการอยู่กับความสุข แล้วจิตเราจะ มีกาลังมากขึ้น พิเศษตรงที่ถ้าอยู่กับความสุขอย่างนี้ เป็นความสุขที่ไม่มี ตัวตน แล้วมีสติ แล้วเราก็เพิ่มตัวเจตนาที่จะรู้อาการเกิดดับของแต่ละอาการ ที่เราเคลื่อนไหว เราขยับ เราพูด เราคิด เราทา เมื่อก่อนเรามีสติอยู่ทุก ๆ อาการ มีสติไปในกาย เหยียดกาย กายคู้ กายขยับ เพราะฉะนั้นกาหนด อิริยาบทย่อยกับต้นจิตก็ง่ายขึ้น ง่ายขึ้น ฟังแล้วก็รู้สึกเหมือนเดิมเลยนะ สภาวะเดิม สภาวะเดิม ๆ แล้วก็พูดเดิม ๆ แต่ดีขึ้นเยอะ
สภาวะเดิมแต่ดีขึ้นเยอะ ตรงนี้..ใสขึ้นเยอะ จากวันแรกถึงวันนี้ ก็เปลี่ยน ใสขึ้นเยอะ ยิ่งเมื่อคืนนี้แผ่เมตตารู้สึก บรรยากาศในศาลาก็ใส