Page 381 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 381
363
เมตตา ส่งความสุขอันนี้ไปให้ อยากให้ใครมีความสุข ส่งใจที่สุขนี้ไปให้เขา จิตของเราเดินทางไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา ไม่มีเวลา คิดถึงปุ๊บก็ถึงทันที
จิตของเราข้ามภพข้ามชาติ ไม่ใช่เฉพาะชาตินี้ ถ้าจิตละเอียดพอ จิตของเราไม่ได้ออกทางประตูอย่างเดียว พอเรานึกถึงบ้าน จิตมันต้องวิ่งไป ทางประตูก่อนไหม ? เปล่าเลย พอคิดก็ถึงบ้านทันที คิดถึงบ้าน จิตก็ไปที่ บ้านทันที ไม่รู้ว่าออกจากห้องนี้ทางไหน ? แค่แวบเดียว นั่นคือความไวของ จิต เพราะฉะนั้นการที่เราแผ่เมตตา แผ่ความสุขให้คนอื่น ให้เพิ่มความสุขให้ กับตัวเองก่อน ใครที่นึกถึงความสุขไม่ออก ให้นึกถึงบุญที่เราเคยทา เวลา เราไปทาบุญทาทาน จะรู้สึกสบายใจ รู้สึกอิ่มใจใช่ไหม ? เอาความรู้สึกอิ่มนั่น แหละมาใส่ใจที่ว่าง ๆ น้อมเอาบุญมาใช้ประโยชน์
บางทีทาบุญแล้วลืมคิดถึงบุญ ไม่เคยคิดถึงบุญ แล้วรอให้บุญช่วย ความทุกข์คิดถึงได้ทั้งวัน แต่บุญไม่เคยคิดถึง แล้วก็บอกว่าบุญไม่ช่วยยาก น่ะนะ.. ถ้าเราไม่คิดถึงเขา คิดถึงส่ิงไหน สิ่งนั้นก็เข้ามาหาเรา คิดถึงความทุกข์ ความทุกข์ก็มา คิดถึงบุญ บุญก็เข้ามาหาเรา นี่แหละเขาเรียกกฏแห่งกรรม ทาอย่างไรได้อย่างนั้น คิดถึงบุญ ความสุขก็เกิด คิดถึงเรื่องที่ทาให้ทุกข์ ความทุกข์ก็เกิด ตรงนี้เขาเรียกมโนกรรม เห็นไหม..ให้ผลสมควรแก่การ กระทา นี่เป็นเรื่องสัจธรรม
เพราะฉะนั้นถ้าอยากมีความสุข เมื่อทาจิตว่างแล้ว เติมความนิ่มนวล อ่อนโยน หรือน้อมถึงบุญที่เราเคยทา เข้ามาใส่ใจที่ว่าง ๆ แล้วถ้าอยากให้ ความสุขน้ีตั้งอยู่นาน ใช้หลักเดียวกัน ให้ใจที่สุขนี้กว้างออกลองดู.. ถ้าเอา ความสุขมาไว้ที่หน้า ลองดูหน้าตาเราเป็นอย่างไร ? เอาใจที่สุขมาไว้ที่หน้า รู้สึกเป็นไง ? จะยิ้มข้างใน หน้าตาจะผ่องใส เพราะความสุขทาให้จิตเรา ผ่อง หน้าก็ผ่อง เนี่ยเราย้ายจิตที่สุข เราสามารถทาได้ ต่อไปให้ยกจิตขึ้นสู่ ความสขุ นบี้ อ่ ย ๆ ไมใ่ ชแ่ คค่ ดิ แตเ่ ขา้ ถงึ ไดเ้ ราจงึ นา มาใชไ้ ด้ ถา้ คดิ เฉย ๆ ความ สุขไม่เกิด ยิ่งคนที่มีความอ่อนโยน เติมความอ่อนโยนมาก ๆ คนมีความสุข