Page 387 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 387

พระอาจารย์ให้เวลาปฏิบัติ และเมตตาสอนขณะที่โยคีปฏิบัติ
การรู้ชัดในรู้ รู้แบบมีความตื่นตัว ไม่ใช่รู้แบบเคลิ้ม ๆ คาว่า “รู้ชัด” รู้ชัดในรู้ รู้ชัดถึงอาการที่เกิดขึ้น ไม่ใช่รู้แบบเคลิ้ม ๆ เบลอ ๆ แต่เป็นการที่ รู้ชัดจริง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ไหน อาการไหนเกิดขึ้นก็ตาม ให้รู้ชัดในอาการ นั้น พร้อมกับพิจารณา สังเกตดู รู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของอาการนั้น ๆ ที่ ชัดอยู่เฉพาะหน้า ว่ามีการเปลี่ยนแปลงในลักษณะอย่างไร โดยที่เราไม่ต้อง ไปบังคับ แค่จิตกาหนดรู้ให้ชัด ไม่บังคับ หรือไม่ปฏิเสธ แต่ให้รู้ชัด
การนั่งสมาธิ การปฏิบัติ ให้มีสติรู้ชัดในอารมณ์ที่กาลังเกิดขึ้นอยู่ ขณะนี้ เดี๋ยวนี้ ไม่ว่าจะเป็นอาการของลมหายใจ หรืออาการพองยุบก็ตาม ที่ ปรากฏชัด ให้จิตเรารับรู้ ก็ให้ไปรู้อาการนั้น รู้ถึงการเปลี่ยนแปลง รู้ถึงอาการ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่ว่าจะเปลี่ยนในลักษณะอย่างไรก็ตาม นักปฏิบัติไม่ ควรเข้าไปบังคับ หรือปฏิเสธ ให้รู้ชัดในสภาวะที่เกิดขึ้น รู้ชัดถึงอาการที่กาลัง เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นเวทนา ความปวด อาการคัน อาการชา อาการ เมื่อย ก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ไหน ไม่ว่าจะเป็นความคิดที่เข้ามา หรือเกิด ขึ้นนั้น ให้กาหนดรู้ตามความเป็นจริงในขณะนั้น ให้รู้ชัด
เมื่อจิตเข้าไปรู้แล้ว อาการเหล่านั้นมีการเปลี่ยนแปลงในลักษณะ อย่างไร ซึ่งเป็นการกาหนดรู้ถึงความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ของสภาว ธรรมที่กาลังเกิดขึ้น ณ ขณะนี้ ปัจจุบันนี้จริง ๆ การกาหนดอารมณ์ กาหนด สภาวะต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้น ต้องไม่ปฏิเสธอารมณ์ที่เกิดขึ้น ให้มีตัวฉันทะ มี ความพอใจพร้อมที่จะรับรู้ พร้อมที่จะกาหนดรู้ ถึงอารมณ์ที่เกิดขึ้นจริง ๆ ขณะนี้ เดี๋ยวนี้
คาว่า “รู้ชัด” ในสภาวะ ในอารมณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ถึงแม้อาการของ ลมหายใจจะไม่ชัด จะบางเบาแค่ไหนก็ตาม ให้รู้ชัดว่าบาง หรือเบา อาการ อื่นก็เช่นเดียวกัน อย่างบางครั้งมีแค่อาการกระเพื่อมไหว ๆ บาง ๆ เบา ๆ
369


































































































   385   386   387   388   389