Page 394 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 394

376
หรือยึดมั่นในสิ่งนั้น รู้ตามความเป็นจริงของอารมณ์ที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นแล้ว ดับไปแล้ว เกิดขึ้นใหม่ก็เป็นอารมณ์ใหม่ ที่ดับไปก็เป็นของเก่า ดับไปแล้ว อันใหม่ขึ้นมา อยู่กับสิ่งใหม่ เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่ถ้าเราเห็นอย่างนี้ จากที่เคยฟุ้งซ่าน จากที่รู้สึกราคาญ รู้สึกหงุดหงิด ความฟุ้งซ่านก็จะน้อยลง หรือหายไป เพราะเราพอใจที่จะรู้การเกิดดับ ธรรมชาติของจิตเขาจัดระเบียบ ของเขา เป็นไปตามลาดับขั้นตอน จิตเกิดทีละดวง ดับทีละดวง
เพราะฉะนั้นถ้าเราพอใจที่จะรู้ เราก็เห็นธรรมชาติของจิตจริง ๆ เกิด แล้วนะ ดับแล้วนะ เกิดใหม่ ดับใหม่ จะไม่มีความรู้สึก อยากให้เป็นอย่างนั้น อยากให้เป็นอย่างนี้ ตรงที่สับสน หรือฟุ้งซ่าน เพราะความอยากเข้าไป อยาก ให้เป็นอย่างนั้น อยากให้เป็นอย่างนี้ ไม่อยากให้ความคิดเกิด อยากให้สงบ อยากหาความสุข อยากหาอาการเกิดดับ อยากเห็นอาการเกิดดับจนคิดมาก ไมร่ หู้ าอาการเกดิ ดบั ของอะไร เราไปรอู้ าการเกดิ ดบั ของอะไร ตอ้ งรนู้ ะ รอู้ าการ เกิดดับของลมหายใจ รู้อาการเกิดดับของเวทนา รู้อาการเกิดดับของเสียง รู้ อาการเกดิ ดบั ของความคดิ รอู้ าการเกดิ ดบั ของแสง หรอื สที เี่ กดิ ขนึ้ ไมใ่ ชอ่ ยู่ ๆ ก็ไปดูอาการเกิดดับ เกิดดับของอะไรไม่รู้ เพราะฉะนั้นเราจึงหาอาการเกิด ดับได้ยาก
เราหาอาการเกิดดับไม่เจอ เพราะเมื่อมีความคิดขึ้นมา เราไม่รู้อาการ เกดิ ดบั ของความคดิ แตจ่ ะไปหาอาการเกดิ ดบั ของอยา่ งอนื่ เรากเ็ ลยหาอาการ เกิดดับไม่ได้ ที่จริงทุก ๆ สภาวะที่เกิดขึ้น เขามีการเกิดดับอยู่ในตัว เพราะ ฉะนั้นการที่เรากาหนดรู้อารมณ์ปัจจุบัน รู้ปัจจุบันจริง ๆ ขณะนั้น อะไรเกิด ขึ้นก็ให้ตามให้รู้ รู้แล้วดับยังไง เกิดมาแล้วหายยังไง เกิดแล้วเปลี่ยนยังไง แค่นั้นเอง ไม่ต้องไปหาอะไรที่ไกลตัว หรือยังไม่เกิดขึ้น ไม่ต้องไปหาสภาวะ ที่ยังไม่เกิด ให้รู้สภาวะที่เกิดขึ้นอยู่ขณะนี้ อารมณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ขณะนี้แหละ รู้แล้วเขาดับยังไง เขามีการเกิดแล้วดับในลักษณะอย่างไร เพราะสิ่งที่ยังไม่ เกิด เราก็ไม่เห็น สิ่งที่ผ่านไปแล้ว ก็เป็นแค่ความจา แต่ปัจจุบันนี้แหละ สิ่ง


































































































   392   393   394   395   396