Page 416 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 416

398
ขึ้นมา รู้แล้วหายไปแล้ว ไม่แน่นอน เพียงแต่ให้รู้ชัด เมื่อไหร่ก็ตามที่เรามี สติเข้าไปกาหนดรู้ อาการเหล่านั้นเปลี่ยนแปลงในลักษณะอย่างไร ? เกิดดับ ในลักษณะอย่างไร ? กาหนดรู้อยู่กับอารมณ์ปัจจุบันจริง ๆ ขณะนี้ เดี๋ยวนี้ ไม่เคร่งเครียดนะ ให้กาหนดรู้ตามที่เขาเป็น ไม่ต้องบังคับ ถ้าบังคับหรือเข้า ไปจ้องมากเกิน ก็จะทาให้เกิดอาการเคร่งตึงหรือเครียดขึ้นมา
ถ้าเราแค่เอา “สติ” เข้าไปรู้ใกล้ๆ ไม่ใช่จ้องนะ สติเข้าไปกาหนดรู้ เข้า ไปจับแต่ละขณะ อาการเขา “เปลี่ยนอย่างไร” ? มีการ “เกิดดับใน ลักษณะอย่างไร” ? เมื่อเราปฏิบัติแล้ว ขณะที่เล่าสภาวะหรือส่งอารมณ์ ให้ เล่าตามที่เห็น เห็นอย่างไรก็เล่าอย่างนั้น นั่นคือสภาวะที่เป็นจริงที่เขาเกิดขึ้น ไม่ต้องห่วงว่าอันนี้เรียกว่าสภาวะหรือเปล่า ใช่หรือเปล่า ให้เล่าตามสิ่งที่ เราเห็นในขณะนั้น ต่อไปอาจารย์จะไม่บรรยาย ให้เรากาหนดรู้อาการที่เกิด ขึ้นเฉพาะหน้าเราจริง ๆ ว่ามีอาการอย่างไร มีการเปลี่ยนแปลงหรือเกิดดับ ในลักษณะอย่างไร
วันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๔
ปฏิบัติ ต่อเลย นั่งกรรมฐานก่อนสักพัก ปฏิบัติแล้วเป็นยังไง กาหนด สภาวะเป็นยังไง แล้วก็ค่อยสนทนากัน... ปฏิบัติก่อนสัก ๔๐ นาที ปฏิบัติ ตามที่เราปฏิบัติมาแล้ว ใครมีการบ้านก็ทาการบ้านต่อ
เริ่มด้วยการยกจิตขึ้นสู่ความว่าง ทาจิตให้ว่าง ให้โล่ง ให้เบา ให้กว้าง กว่าตัว จากนั้นก็ ”นิ่งในความว่าง” เมื่อนิ่งในความว่างแล้ว ต่อไปก็ไปตามรู้ อาการของลมหายใจเข้าออก ถ้านิ่งในความว่างแล้วมีอาการเกิดดับที่เป็น แสงเป็นสีปรากฏขึ้นมา ก็ดูอาการนั้นต่อไปได้เลย ไม่ต้องไปหาลมหายใจ แต่ ถ้าเรานิ่งในความว่างแล้ว ลมหายใจเข้าออกชัด ก็ให้ตามลมหายใจไป
เป้าหมายของการตามลมหายใจ คือ ตามกาหนดรู้ “การเปลี่ยนแปลง” การเกิดขึ้น การตั้งอยู่ แล้วก็ดับไปของลมหายใจ อย่างเช่น เวลาเราหายใจ


































































































   414   415   416   417   418