Page 439 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 439
421
เมื่อรู้ว่าสิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป แล้วทาไมคนเราถึงทุกข์ ? ลอง พิจารณาถามตัวเองดู “เมื่อทุกอย่างเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป แล้วทาไมเราถึง ทุกข์ ?” เราจะหาคาตอบให้ตัวเองได้
เหมือนกับลมหายใจของเรา มีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปตลอดเวลา แค่เราพิจารณาดูความเปลี่ยนแปลง การเกิดดับ แล้วทาไมทาให้ใจเราสงบ และใจเราผอ่ งใสได้ ? นนั่ คอื “ความมหศั จรรย”์ อยา่ งหนงึ่ เพราะการพจิ ารณา กาหนดรู้ ด้วยความไม่มีตัวตน ไม่มีกิเลส รู้ตามความเป็นจริง ก็จะทาให้จิต เราสงบและผ่องใส ฉะนั้น ขอให้เราทั้งหลายจงตั้งใจพิจารณาสภาวธรรมที่ เกิดขึ้นข้างหน้าให้ชัด... จากนี้ไปอาจารย์จะไม่บรรยาย ให้เราตามรู้อาการที่ ปรากฏขึ้นข้างหน้าให้ชัดเจน
จา ไวอ้ ยา่ งหนงึ่ วา่ ไมว่ า่ เปน็ จะเปน็ อาการของลมหายใจ อาการพองยบุ อาการของเวทนา อาการของความคิด หรือสีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นข้างหน้าเรา ไม่ ว่าจะเป็นอาการไหนก็ตามที่ปรากฏขึ้นมา ให้มีสติหรือเอาความรู้สึกหรือจิต ไปกาหนดรู้ว่าเขาเกิดและดับในลักษณะอย่างไร มีการเปลี่ยนแปลงในลักษณะ อยา่ งไร อนั นคี้ อื จดุ สา คญั ในการเจรญิ วปิ สั สนา คอื การกา หนดรอู้ าการเกดิ ขนึ้ ตั้งอยู่ ดับไป หรือรู้อาการเกิดดับของรูปนามที่ปรากฏขึ้นมานั่นเอง ไม่ว่าจะ เปน็ เวทนาหรอื ความคดิ กใ็ หพ้ อใจทจี่ ะกา หนดรวู้ า่ เขาเกดิ ดบั อยา่ งไร... จากนี้ ไป ๑๕ นาที อาจารย์จะไม่บรรยาย หลังจากนั้นจะได้เล่าสภาวะ หรือส่ง สภาวะ สงสัยหรือมีอะไรถาม ก็ถาม จะได้สนทนาธรรมกันต่อไป
วันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๔ (ช่วงที่ ๒)
เวลา “ความคิด” เกิดขึ้น เขาค่อย ๆ เลื่อนเข้ามา ค่อย ๆ ไหลเข้ามา หรือว่าผุดเกิดขึ้นทันที ถ้ามีความคิดเกิดขึ้นต่อเนื่องเยอะ ๆ ไม่ต้องไปหา ลมหายใจ ไม่ต้องไปดูอาการพองยุบ ให้มีสติไปรู้ความคิดนั้นเลย เอาความ คิดมาเป็นอารมณ์กรรมฐาน เอาความคิดมาเป็นอารมณ์ในการเจริญสติ ด้วย