Page 452 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 452

434
ถ้าเขาไม่ดี แล้วทาให้สังคมไม่ดี ครอบครัวเราไม่ดี เราบริหารจัดการได้ไหม ? อยู่ตรงนั้นแหละ! ทายังไงให้ดีขึ้น ? อยู่ใกล้ ๆ เราก็จัดการของเรา เรื่องของ คนอื่น ปล่อยเขาเถอะ ทุกคนมีปัญญาพิจารณา...
(โยคีกราบเรียนว่าจิตมันไว แวบไปแวบมา) จริง ๆ ทุกคนนั่นแหละ พอเริ่มนั่งสมาธิใหม่ ๆ มันจะแวบไปแวบมา ทีนี้ มีอย่างหนึ่ง จะสนุกกับ การตามรู้จิตตัวเอง ยิ่งเราเห็นจิตเราไวเท่าไหร่นี่ ให้ “พอใจ” ที่จะรู้ เดี๋ยวไป แล้วนะ เดี๋ยวจะไปแล้วนะ เดี๋ยวจะไปแล้วนะ... พอเรารู้ทันโดยที่เราไม่ ต้องไปห้ามเขา แล้วเราสนุก เหมือนกับเรานั่งดูดาวตกนั่นแหละ เดี๋ยวแวบ เดี๋ยวเมื่อไหร่จะมา เดี๋ยวก็แวบ เดี๋ยวเมื่อไหร่จะไป... แวบ แวบ... สมาธิเรา จะเพิ่มขึ้น สติเราจะนิ่งแล้วอยู่กับปัจจุบัน
แม้แต่ในชีวิตประจาวัน สังเกตดูดี ๆ นะ เวลาเราทางานอะไรอย่าง มีสติอยู่กับปัจจุบัน นิ่ง ๆ อยู่ อะไรผ่านมาปุ๊บ จิตมันจะแวบไปทันที ถ้าเรา พอใจที่จะรู้ อ้ะ! รู้ทันนะ รู้ทันนะ รู้ทันนะ... แล้วเรารู้สึกเกิดปิติขึ้นมา เพราะ อะไร ? เห็นจิตตัวเอง เห็นการทางานของจิต เห็นธรรมชาติของจิต ไม่ใช่ว่า เราอยากไป แต่เห็นธรรมชาติของจิตทางาน จิตเราจะใสขึ้นด้วยซ้า
แต่ถ้าเราห้าม แล้วเราไม่พร้อมที่จะรู้ เราจะรู้สึกอึดอัด ทาไมต้อง ไป ? จะอยู่ตรงนี้อย่างเดียวไม่ได้หรือ ? ทาไมต้องไป ? ทาไม ? เริ่มแล้ว... จากหนึ่งกลายเป็นสอง เป็นสาม เป็นสี่ อารมณ์ แล้วเราก็จะเริ่มฟุ้งซ่าน ราคาญตัวเอง บางคนไม่ยอมราคาญตัวเองหรอก ตัวเองไม่เคยผิด ราคาญ คนอื่นมากกว่า... ราคาญจังเลย เราก็อยากสงบอยู่ทีเดียว ไป ๆ มา ๆ อยู่ นั่นแหละ ไม่ยอมหยุดสักทีหนึ่ง! ตัวเองอยากสงบ แต่บังคับให้คนอื่นสงบ ก่อน ใครได้ประโยชน์ล่ะ ? ไม่ได้นะ
จริง ๆ แล้วหมายถึงอะไร ? คือวิธีคิด เขาเรียก “ทิฏฐิ” ของเรา ที่ บอกว่าเริ่มจาก “สัมมาทิฏฐิ” การเห็นชอบ วิธีคิดที่ถูกต้อง คิดอย่างไรเราถึง ไม่ทุกข์ ? คิดอย่างไรจิตเราถึงจะสงบ ? เพราะฉะนั้น สมัยนี้จึงมีคาพูดว่า


































































































   450   451   452   453   454