Page 471 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 471
453
ดับอย่างไร ? ทันขณะดับก็ให้รู้ว่าดับอย่างไร ? บางครั้งตอนเกิดไม่เห็น พอ รู้อีกทีก็หายแล้ว รู้ก็หาย รู้ก็หาย เพราะฉะนั้น ไม่ว่าเราจะเห็นขณะไหนก็ตาม อาการอะไรที่ปรากฏขึ้นมา จะทันขณะแรก ขณะที่สอง หรือขณะเกิด ขณะตั้ง หรอื ขณะดบั กต็ าม ไมผ่ ดิ เพยี งแตใ่ หม้ เี จตนาทจี่ ะรถู้ งึ การเกดิ ขนึ้ ตงั้ อยู่ ดบั ไป
แล้วทาอย่างไรถึงจะทันขณะเกิด ? เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเห็นขณะดับ เกาะติดอาการถึงเห็นอาการดับ ดับ ดับ ถ้าดับเสร็จ เราตามรู้ต่อไป ดับแล้ว เขาเกิดต่อทันทีไหม ดับแล้วเขาเกิดต่อทันทีไหม... เราสังเกตอย่างนี้ ต่อไปก็ จะทันขณะเกิด แต่ถ้าดับแล้ว เราไม่ได้นิ่งหรือไม่สังเกตต่อว่า อาการนี้ดับไป เขาเกิดต่อหรือเปล่า เราจะไปหาอันใหม่เลยนี่ จะไม่ทัน เพราะการดับเป็นเหตุ ให้อารมณ์ใหม่เกิดขึ้นได้ ถ้าจิตดวงนี้ไม่ดับ จิตดวงใหม่ก็เกิดขึ้นไม่ได้
ถ้าต้องการให้ทันอาการเกิดอาการดับ ก็ต้องเกาะติดต่อเนื่องไป การ กาหนดอารมณ์อย่างต่อเนื่องก็จะทันเอง ไม่ต้องไปกังวลว่าต้องทันขณะ แรกหรือทันขณะไหน ให้รู้ว่าตอนนี้สภาวะที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร ลมหายใจ เปลี่ยนแปลงหรือเปลี่ยนไปในลักษณะอย่างไร นี่คือสิ่งสาคัญ เมื่อเราตาม รู้ต่อเนื่อง ถ้ามีอารมณ์จรเข้ามา มีความคิดมีเสียงเกิดขึ้น ถ้าเป็นความคิด สัพเพเหระ ไร้สาระ ไม่รบกวน มีการแทรกสั้น ๆ แทรกก็หาย แทรกก็หาย ก็ให้รู้ชัดว่าแทรกเข้ามาแล้วก็หายดับไป หลังจากนั้นก็ไปสนใจอารมณ์หลัก
แต่ถ้าอารมณ์จรมีกาลัง อย่างเช่น เราตามรู้พองยุบอยู่ แล้วความคิด เกิดขึ้นต่อเนื่อง จนไม่สามารถกาหนดพองยุบได้ มีแต่ความคิดเข้ามา ตรงนั้น ให้เปลี่ยนอารมณ์ไปกาหนดความคิดแทน ไม่ต้องไปหาพองยุบ ให้กาหนดรู้ อาการเกิดดับของความคิดที่เกิดขึ้น ที่กาลังเข้ามา ถ้ามีปัญหาว่า พอเราจะไป กาหนดรู้ ความคิดไม่เกิดแล้ว หายไปว่างไป จะรอยังไงเขาก็ไม่มา อันนั้นก็ไม่ ต้องกังวล เราก็นิ่งรออยู่จนหายไป สักพักพองยุบหรือลมหายใจก็จะปรากฏ ชัดเอง เราค่อยไปรู้ลมหายใจต่อ แต่ถ้าเกิดความรู้สึกว่า พอกาลังจะไปรู้พอง ยุบ ความคิดเข้ามาอีก ก็รู้ความคิดต่อ