Page 511 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 511
493
ไหม ? เราก็จะหงุดหงิดมากขึ้น จิตก็จะไม่ดีแล้ว สติก็จะอ่อนไป เพราะฉะนั้น อันไหนที่ชัดในความรู้สึก ก็ให้รู้ว่าชัดในความรู้สึก ให้ รู้สึกชัดว่าเขาเป็นแบบนี้ ๆ ไป อันนี้พูดถึงแต่ของยากแล้วนะ ว่าจะพูดเบา ๆ คุยเบา ๆ กลายเป็นเรื่องยากหมดเลย... ที่จริงไม่ยากหรอก สภาวะเราเคย เห็นทั้งนั้นแหละ ใช่ไหม ? เคยเห็นแล้วแต่ทาไม่ถูก ที่บอกไว้เพราะเป็นสิ่งที่
เขาต้องเกิดแน่นอน ต่อไปจะได้รู้ว่าแก้อย่างไร
เพราะฉะนั้น ทุกครั้งเวลาเราปฏิบัติ อย่าลืมเป้าหมายของเรา แล้วก็
สิ่งที่ต้องกาหนดรู้ สิ่งที่ต้องทา สิ่งที่ต้องทา คือ มีสติให้มาก พยายามมีสติให้ เยอะ สิ่งที่ต้องรู้ คือ มีสติแล้วต้องรู้ว่า อาการนั้นเกิดดับในลักษณะอย่างไร และยิ่งเห็นอาการเกิดดับมากเท่าไหร่ สภาพจิตใจเราเป็นอย่างไร เรารู้เอง เขาเกิดขึ้นกับตัวเราเอง แต่หลังจากเรารู้แล้วก็เล่าให้อาจารย์ฟังบ้าง อาจารย์ จะได้รู้ด้วย จะได้ปลื้ม จะได้ดีใจด้วย เวลาปฏิบัติได้ดี
อารมณ์หลัก ๆ ถ้านั่งเห็นลมหายใจก็รู้ลมหายใจ ช่วงนี้ลมหายใจ เขาเป็นแบบนี้ เห็นแต่ลมหายใจอย่างเดียว แต่ลมหายใจมีลักษณะเป็นกลุ่ม ก้อน หรือเป็นเส้นบาง ๆ หรือเป็นแบบกระจาย ๆ เป็นฝุ่น หรือไม่เห็นเลย แต่รู้สึกว่ามีแล้วหาย มีแล้วหาย อันนี้ไม่ผิด ไม่ต้องพยายามหาความเป็นรูป ร่างของเขา ให้รู้ตามนั้นไปเลย ถ้ามีเวทนาเกิดขึ้น เวทนาช่วงนี้เกิดขึ้นต่าง จากเมื่อก่อน ต่างแล้วเขาเป็นแบบนี้ นั่นแหละคือสิ่งที่ต้องเล่า แต่พอเข้าไปรู้ เห็นเขาดับแบบนี้ หรือไม่เห็นอาการเกิดดับเลย ยิ่งดูยิ่งปวด เล่าตามอาการ นั่นแหละ แล้วไม่ต้องกังวลว่าทาไม่ได้เลย ยิ่งดูยิ่งอึดอัด ยิ่งดูยิ่งปวด จะได้ รู้ว่าดูแล้วเป็นยังไง
ถ้ารู้แล้วอึดอัด ทาอย่างไร ? เราแก้อาการอึดอัดก่อน ถ้ายิ่งดูแล้วยิ่ง ปวด ให้รู้ว่าความปวดกับจิตที่เข้าไปดู เป็นส่วนเดียวกันหรือคนละส่วน ต้อง เป็นอย่าง ๆ แบบนี้ไปเลย แล้วเราก็จะกาหนดได้ง่ายขึ้น ตอนนี้ความปวด ไม่เหมือนเดิมแล้ว แปลบหาย แปลบหาย เราก็รู้ชัดว่าตอนนี้เวทนาไม่