Page 64 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 64

46
โปรดเมตตาชี้แนะด้วยค่ะ
พระอาจารย์ : ถ้าอารมณ์ภายนอก แค่รู้ เขาเรียกเป็น “อารมณ์จร” เวลาเราเดินจงกรม ก็จะมีอารมณ์จรในลักษณะอย่างนี้ ในสถานที่บางแห่ง ที่มีเสียงดัง หรือภาพอยู่ข้างหน้า หรือมีความคิดปรากฏขึ้นมาตรงนี้ พอเรา กาหนดอาการก้าวเท้าเดินดี ๆ แล้วก็จะมีความคิดแวบเข้ามา หรือไหลเข้ามา เรื่อย ๆ นี่ ตรงนี้เขาเรียกว่า “อารมณ์จร” ถ้าอารมณ์จรมีความต่อเนื่อง ให้ หยุดยืน แล้วกาหนดอารมณ์จร ดูความคิดก่อน พอความคิดหมดไป ค่อย มารู้อาการเดินใหม่
แต่ขณะที่เราเดินแล้วเสียงดัง เสียงไม่ได้ดังยาวนาน แค่ทีเดียว แล้ว ใจเราก็แวบไป แล้วเสียงนั้นก็ดับไป ก็ไม่ต้องไปตามเขา แค่รู้แค่นั้น แล้วก็ มาดูอารมณ์ปัจจุบัน ดูอารมณ์หลักต่อ ก็คือการก้าวเท้าการเดินของเรา ใช้ แบบนี้
โยคี (๕) : แล้วขา ๒ ขานี่...
พระอาจารย์ : ๒ ขานี่ถ้าเรากาหนดต่อเนื่องกันได้ ก็ให้ต่อเนื่องกัน สลับกันได้ ไม่เป็นไร ถูกแล้ว ที่จริงเขาต้องกาหนดทั้งซ้ายทั้งขวานั่นแหละ
โยคี (๕) : แต่ว่าขาซ้ายยังไม่เห็นดับชัดเจน ก็มาเห็นขาขวาแล้ว นี่ ถูกต้องไหมคะ ?
พระอาจารย์ : ถูกแล้ว เขาเรียกว่า “เห็นแต่ตอนช่วงเกิด ตอนดับ ไม่เห็น” เห็นตอนยก แล้วก็ก้าวไป แล้วก็ยกใหม่ แล้วก้าวไป เพราะฉะนั้น วิธีจะให้ชัดก็คือ เราต้องนิ่งมากขึ้น หรือก้าวช้ามากขึ้น นิ่งขึ้นแล้วก็สังเกต เกาะติดให้มากขึ้น พอก้าวไปปุ๊บ อาการกระทบก่อนไหมก่อนที่จะยกขึ้นมา ต้องนิ่งขึ้น สังเกตมากขึ้น วิธีที่จะทันคือต้อง “นิ่งมากขึ้น” แล้ว “เกาะติดกับ อาการ จากเริ่มต้นจนสิ้นสุด” ตรงนี้เขาเรียกว่า “เห็นแต่ตอนเกิดขึ้นกับตั้ง อยู่ ตอนดับไม่เห็น” ซึ่งไม่ผิด ช่วงนี้เห็นแบบนี้ก็ดีแล้ว แต่ให้สังเกตว่า ต่อ


































































































   62   63   64   65   66